ช้างศึกไทย ทำได้เอาชนะ กัมพูชา เข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022
ช้างศึกไทย ทำได้เอาชนะ ทีมชาติกัมพูชา เข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนบอล
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 รายการ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริค คัพ 2022 วันที่ 2 ม.ค. 66 เริ่มทำการแข่งขันเวลา 19:30 น. ตามเวลาประเทศไทย รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย กลุ่มเอ ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติกัมพูชา
รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทย มาโน โพลกิง โค้ชใหญ่ จัด 11 ตัวจริง ประกอบไปด้วย กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก (GK) , ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์น.73) , พรรษา เหมวิบูลย์ , กฤษดา กาแมน , ศศลักษณ์ ไหประโคน (สุมัญญา ปุริสาย น.46) , บดินทร์ ผาลา (ปรเมศย์ อาจวิไล น.87) , สารัช อยู่เย็น , ธีราทร บุญมาทัน , เอกนิษฐ์ ปัญญา (พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี น.46) , อดิศักดิ์ ไกรษร (ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว น.46) และ ธีรศิลป์ แดงดา ด้วยระบบ 4-4-2
รายชื่อผู้เล่นทีมชาติกัมพูชา เคซึเกะ ฮอนดะ หัวเรือใหญ่ จัดระบบ 3-4-2-1 แก้ว สุขเสลา (GK) , ชานชาฟ ชุน , เทส สัมบัต (เธียร์รี จันทา บิน น.78), เสย วิซัล , เซี๊ยะ บาเรียง (เชง เมง น.69) , ชานโพลิน อร (บอริส ก็อก น.78) , ซอส ซูฮานา , ยือ มุสลิม , เซียง จันเทียะ , ลิม พิโสธ (นิค เทย์เลอร์ น.69) และ บุนเฮง เรือง (ซา ไท น.46)
ครึ่งแรก
เริ่มเกมมาได้ 6 นาที ทีมชาติไทยได้มีโอกาสทักทายก่อน จากการครอสบอลจากทางฝั่งซ้าย มาเข้าทาง เจ้าบุ๊ค เอกนิษฐ์ ปัญญา ปั่นด้วยเท้าซ้าย แต่บอลไม่ตรงกรอบ เลื้อยผ่านน่าประตูไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 14 ลิม พิโสธ พาบอลบุกมาด้านซ้าย ก่อนจะหลอก กฤษดา กาแมน ซะจนหลังหัก แต่ช้างศึกก็ยังมาซ้อนเตะออกนอกเขตอันตรายได้ ทำให้จนแล้วจนรอด ลิม พิโสธ ก็ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์ ผ่าน 20 นาที ไทย พบ กัมพูชา ยังเสมอ 0 - 0
นาทีที่ 25 เกมรุกของ กัมพูชา ยิ่งเริ่มน่ากลัว พวกเขามีโอกาสพาบอลมาป้วนเปี้ยนหน้าปากประตุทีมชาติไทยถี่ขึ้น อีกทั้งยังมีจังหวะขลุกขลิกแต่ ไทยยังเคลียร์ออกไปได้ ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง บุนเฮง เรือง กองหน้าตัวความหวัง กัมพูชา ปั่นด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลผ่านเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย สกอร์ 0 - 0 ยังไม่ขยับ
นาทีที่ 35 เกมโต้กลับของกัมพูชายังหวาดเสียว พวกเขาพาบอลมาจากแดนกลางก่อนจะส่งต่อให้ ลิม พิโสธ ได้ซัดด้วยซ้าย แต่ กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก ยังปิดมุมเสาแรกได้อย่าง บล็อคบอลออกหลังไป แม้กัมพูชาจะได้เตะมุม 2 ครั้งรวดแต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูขึ้นนำได้
นาทีที่ 44 ของเกม ศศลักษณ์ ไหประโคน พาบอลเข้ากรอบเขตโทษ แต่โดน ยือ มุสลิม เข้าบอลหนัก บวกใส่จนล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินจาก ยูเออี ไม่รอช้า ให้จุดโทษทีมชาติไทยทันที และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ซัดเสียบมุม ไทยนำ 1 - 0 ก่อนจบครึ่งแรกสำเร็จ
ครึ่งหลัง
มาโน ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 3 ตำแหน่ง และดูเหมือนว่าจะได้ผล เมื่อ กัมพูชา ส่งบอลพลาดมาเข้าทาง เจ้าตัง สารัช อยู่เย็น พักบอลด้วยออกเนียนๆ ก่อนจะแอสซิสต์ ให้กับ สุมัญญา ปุริสาย ไหลบอลตามน้ำผ่านมือ แก้ว สุขเสลา ไทยหนีห่างเป็น 2 - 0 ในนาทีที่ 50
ไทยเดินหน้าบุกแบบไม่ให้กัมพูชามีโอกาสหายใจ ก่อนจะมีโอกาสสวยๆ อีกหลายช็อต นาทีที่ 59 บดินทร์ ผาลา ได้บอลมาจากแดนกลาง ก่อนจะเลี้ยงแต่งเล็กน้อยช่วงหน้ากรอบเขตโทษ กัมพูชา ก่อนจะกระดกแบบสุดเอื้อม แต่ดันไปตรงตัวของ แก้ว สุขเสลา รับไว้หนึบ
นาทีที่ 64 ธีรศิลป์ แดงดา มีโอกาสซัดแต่บอลกระดอนไปโดนมือ แก้ว สุขเสลา ก่อนจะชนเสา เข้ามือเขาอีกครั้งชั่วอึดใจเดียว กัมพูชา ได้โอกาสโต้กลับ และมีโอกาสเดี่ยวๆ กับ กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก แต่ไม่อาจผ่านด่านผู้รักษาประตุคนเก่งของไทยไปได้ กัมพูชายังตีไข่ไม่แตกตาม 0 - 2
ถัดมาเพียงแค่ 34 นาที กัมพูชามีโอกาสโหมบุกใส่ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ก่อนที่ ซา ไท ได้โอกาสแอสซิสต์แบบพลีชีพให้ เซียง จันเทียะ หลอก สารัช จนหลังหัก ก่อนส่งบอลเข้าตาข่ายสำเร็จ กัมพูชาไล่มาเป็น 1 - 2
เหลือ 5 นาทีสุดท้ายต่างฝ่ายต่างผลัดกันบุกอย่างสนุก ต่างฝ่ายต่างหวังประตูเพิ่มเพื่อผลดีในรอบต่อไป ไทย มีดอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิก แต่ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก่อนจะเข้าสู่ช่วงทดเวลา เจ้ามุ้ย แก้ตัวได้สำเร็จ จากการรับช่วงต่อจาก พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ซัดตุงตาข่าย นำ 3 - 1 ก่อนจะจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
สรุปผลการแข่งขัน ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติกัมพูชา 3 - 1
ซึ่งผลการแข่งขันคู่ระหว่าง ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย เป็นทาง อินโดนีเซีย ชนะไป 2 - 1 ส่งผลให้ทีมชาติไทย คว้าแชมป์กลุ่ม A ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า ได้เปรียบในนัดที่สองที่จะได้เล่นในบ้าน และได้เข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศ ที่จะทำการแข่งขันวันที่ 6 - 7 ม.ค. 66
ภาพจาก ช้างศึก
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews