"ทนายตั้ม" แฉคำใบเพิ่มอดีตรองนายกฯ เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน
"ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง แฉคำใบเพิ่มอักษรย่อ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนกำลังจับตามอง จากกรณีที่ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาแฉอดีตรองนายกฯ หลังมีผู้เดือดร้อนเข้ามาปรึกษาทางกฎหมายฟ้องชู้ เนื่องจากพบรูปภรรยาถ่ายภาพเปลือยคู่อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยมีคำใบ้ว่า อดีตรองนายกฯ อักษรย่อ ย. ซึ่งวันนี้ 9 ม.ค. 66 ในช่วงที่แถลงข่าวมีการเผยว่า ปัจจุบันอดีตรองนายกฯคนนี้ เคยอยู่พรรคเพื่อไทยแต่ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคมาตั้งแต่ปี 2561
ล่าสุด ทางด้าน ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และทางผู้เสียหายที่ปรึกษากฎหมาย ว่าภรรยามีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยพบหลักฐานรูปถ่ายโป๊เปลือยคู่กันและแชทข้อความเรียกกันผัว-เมีย ชวนกันไปมีสัมพันธ์ ก่อนที่ทนายตั้มจะเปิดคำใบ้ชื่ออดีตรองนายกฯ คนดังกล่าว ว่ามีชื่อขึ้นต้น ย.
หลังจากเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหาย ทนายตั้มเปิดเผยว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดเป็นปีอย่างที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาให้สัมภาษณ์ จากข้อมูลของตัวเองทราบว่าเรื่องนี้เพิ่งเกิดเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายที่เป็นสามีบอกว่าภรรยาทำงานที่โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ก่อนพบว่าท่าทีเริ่มเปลี่ยนไป จึงการสังเกตพฤติกรรม ก่อนค้นหาโทรศัพท์เจอขอความในไลน์คุยผู้ชาย พร้อมเจอภาพโป๊คู่กันกับผู้ชายจำนวนมาก แล้วจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีทันทีที่เห็นภาพ โดยเหตุการณ์คบชู้ดังกล่าวทางผู้เสียหายคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 และเข้ามาปรึกษาตัวเองให้ช่วยเดือนธันวาคม 2565 เบื้องต้นตัวเองได้ฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหายจากภรรยาและชู้ตามคดีแพ่งวันที่ 23 ธันวาคม 2565 แต่ภรรยาไม่ยอมหย่า โดยให้เหตุผลว่ายังรักสามีอยู่ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางภรรยาได้ตีตัวออกห่างอดีตรองนายกฯ ทำให้อดีตรองนายกฯไปแจ้งความดำเนินคดีกับภรรยากับผู้เสียหายในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากในช่วงที่คบหากันมีการให้เงินและทรัพย์สินต่างๆซึ่งตัวเองมองว่าเป็นการให้โดยเสน่หาทั้งสิ้น
ซึ่งทางตำรวจได้เคยเรียกให้ฝั่งผู้เสียหายกับภรรยาไปไกล่เกลี่ยที่โรงพักแล้วครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า อดีตรองนายกฯได้พาชายฉกรรจ์ 6-7 คน มาล้อมและข่มขู่ และมีการค่าใช้จ่ายการไปข่มขู่ถึงที่พักด้วยซึ่งในส่วนนี้ตัวเองได้แจ้งเรื่องไปยัง ผบ.ตร. แต่ยังไม่คืบหน้า ซึ่งหลังจากนี้ภายในอาทิตย์นี้ตั้งใจว่าจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึง ผบ.ตร.อีกครั้ง เมื่อสอบถามว่าอดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นใคร ทนายตั้มขอไม่ระบุตัวตนแต่บอกว่า เป็นอดีตรองนายก มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยชอบตีกอล์ฟแต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์
เมื่อสอบถามว่า คนนี้เป็นอดีตสมาชิกพรรคหรือไม่ ทนายตั้มบอกว่า ปัจจุบันไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแล้ว แต่เคยอยู่ในพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ปี2551-2561 ซึ่งขณะนี้ได้ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว และเป็นคนที่อายุมากแล้ว เมื่อสอบถามว่าอดีตรองนายกคนนี้เคยมีคดีอะไรติดตัวมาก่อนหรือไม่ ทนายตั้มบอกว่าตอนนี้จากข้อมูลไม่มีคดีอะไรติดตัวแล้วแต่ก่อนหน้านี้จะมีหรือไม่ต้องไปหาข้อมูลเอาเอง เมื่อสอบถามว่าใช้บุคคลที่เคยออกมาปฏิเสธหรือไม่ เช่น นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯ หรือไม่ ทนายตั้มไม่ได้ปฏิเสธแต่มีการพูดถามกลับว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ปฎิเสธหรอ แต่เมื่อถามว่าใช่นายยุคล ลิ้มแหลมทอง หรือไม่ ทนายตั้มกลับบอกว่าไม่เกี่ยวทันที
เมื่อสอบถามถึงแม้ไม่ได้พูดถึงพรรคเพื่อไทยโดยตรงแต่กระแสมีการไปถึงพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นสมาชิกพรรคมองอย่างไร ทนายตั้มบอกว่า ส่วนตัวชอบนโยบายพรรค และมองว่าต้องการปกป้องพรรคที่ตัวเองชื่นชอบไม่อยากให้คนไม่ดีกลับเข้ามาในพรรค ซึ่งตัวเองไม่อยากให้โยงไปเรื่องการเมืองเพราะบุคคลนี้ไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองแล้วซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงต้องออกมาแถลงพูดถึงประเด็นนี้ โดยหลังจากเปิดเผยเรื่องนี้มีสายตรงจากใครเข้ามาปกป้องอดีตรองนายกฯ หรือข่มขู่หรือไม่ ทนายตั้มบอกว่าเบื้องต้นจนถึงขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนไหนติดต่อเข้ามา
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews