เฉลยสาเหตุแท้จริง “ไอซ์ ปรีชญา นางเอก 100 ล้าน ที่ต้องทำศัลยกรรม น่าเห็นใจมาก
วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเฉลยสาเหตุแท้จริง “ไอซ์ ปรีชญา” นางเอกภาพยนตร์ 100 ล้าน ที่ต้องทำศัลยกรรม น่าเห็นใจมาก!
เรียกได้ว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ไอซ์ ปรีชญา” นางเอกดังมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ เเละเธอนั้นก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เจอเรื่องราวมากมายในชีวิต นับว่าเป็นมรสุมชีวิตเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อตอนเป็นนักแสดงแล้วก็เกิดอุบัติเหตุหลับในชนกับรถ 6 ล้อ จนทำให้หน้าเสียโฉมต้องรักษานานกว่า 2 ปี ก็ต้องรักษาหน้าไปเรื่อยๆจนคนมองว่าหน้าเปลี่ยนไปตลอด และโดนเมาท์ตลอดว่าเสพติดศัลยกรรม หนำซ้ำยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษาตัวมานานกว่า 8 ปีแล้ว
โดยวันนี้เราจะพาทุกท่านมา เฉลยสาเหตุแท้จริง “ไอซ์ ปรีชญา” นางเอกภาพยนตร์ 100 ล้าน ที่ต้องทำศัลยกรรม น่าเห็นใจมาก! โดยก่อนหน้านี้เธอเคยเปิดใจว่า “จำได้ว่ากำลังจะไปถ่ายซิตคอม ขับรถไปเอง หลับในชนกับรถ 6 ล้อ ไอซ์สลบ ตอนนั้นคิดว่าไม่รอดแล้ว ไอซ์สลบไป 10 นาที แล้วตื่นมาเจอกู้ภัยที่มาช่วย ตอนนั้นเลือดเต็มหน้า ในใจก็ยังคิดว่าจะไปถ่ายงานยังไง ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย
อาการไอซ์ตอนนั้นคือไหปลาร้าหัก ข้อมือหัก กระดูกซี่โครงข้างขวาหักไปทิ่มปอด ปอดรั่ว หน้าต้องเย็บ 3 ชั้น เสียโฉมเลย ต้องใช้หมอ 5 คนรักษา ศัลยกรรมพลาสติก หมอปอด หมอตา หมอสมอง แล้วก็หมอกระดูก และอุบัติเหตุครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นของการทำศัลยกรรม เพราะซีกขวาไปหมดเลยทั้งตัวและหน้า ตอนนั้นต้องไปหาหมอสัปดาห์ละครั้ง ไอซ์ไม่ส่องกระจกเลย 3 เดือน
ต้องเอาผมมาบังหน้า ยอมรับว่าตอนนั้นสภาพจิตใจแย่มาก เหมือนว่าเราหยุดงานด้วย แต่เราก็มีเวลาคิดเยอะขึ้น ก็พยายามหาหมอรักษาหน้าให้ดีขึ้น กว่าจะกลับมาเหมือนเดิมก็ใช้เวลา 2 ปีกับเรื่องที่ถูกมองว่าเสพติดศัลยกรรมนักแสดงสาวเผยว่า พอเริ่มไปทำ ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้แย่ แต่ก็เคยพลาด จะมีช่วงที่ทำแล้วพลาด มีช่วงนึงที่ฉีดโบท็อกซ์ไม่เท่ากัน 2 ข้าง เลยดูปากเบี้ยว กินน้ำก็ไหลออก จนกระทั่งมีคนทักว่ายิ้มแล้วปากเบี้ยว ก็เลยต้องฝึกมัดกล้ามเนื้อให้บาลานซ์กัน การทำศัลยกรรมก็เริ่มจากอะไรที่เล็กๆ ก่อน ก็มีช่วงที่รู้สึกว่าทำเยอะไปควรจะหยุด ก็หยุดทำไปช่วงนึง ต้องรอให้หน้าเข้าที่ก่อนแล้วค่อยกลับไปหาหมอใหม่
ช่วงที่ทำจมูกแรกๆ ก็ไม่ชินหน้าตัวเอง กว่าจะลงตัวที่หน้าปัจจุบันทำจมูกไป 2 ครั้ง ถ้าถามมูลค่าทำหน้าก็คิดว่ามากกว่าค่าตัว ทำทุกอย่างทั้งหมดน่าจะเกิน 10 ล้านบาท”