"ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" โดนแล้ว เสียรู้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สูญเงิน 3.2 ล้าน
ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เผย โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงิน 3.2 ล้านบาท หลังกลับจากการแข่งขันซีเกมส์ 2023 เหลือเงินติดตัวแค่ 8,000 บาท
วันที่ 18 พ.ค. 2566 มีรายงาน ต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือ วัฒนา ภู่โอบอ้อม นักสนุกเกอร์ไทยชื่อดัง ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองสนุกเกอร์ 6 แดง ชายคู่ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เปิดใจเล่าว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปกว่า 3.2 ล้านบาท เหลือเงินติดตัวแค่ 8,000 บาทเท่านั้น
ต๋อง ศิษย์ฉ่อย เล่าว่า ก่อนเดินทางไปแข่งขัน ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์โดยรูดบัตรเครดิตราว 5-6 หมื่นบาท จากวงเงิน 1 แสนบัตร หลังจากนั้นเมื่อรูดบัตรอีกปรากฏว่าเต็มวงเงิน รู้สึกแปลกใจ แต่คิดว่าไปแข่งขันซีเกมส์ก่อน กลับมาค่อยจัดการ
หลังจากกลับมา เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหา ถามว่าใช่วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือไม่ ก่อนบอกว่าตนติดหนี้ 8.9 หมื่นบ้าน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยติดหนี้ จากนั้นอีกฝ่ายถามว่าเคยไป จ.นครสวรรค์ หรือไม่ ตนตอบว่าไม่ได้ไป 5-6 ปีแล้ว ทางนั้นให้ติดต่อ สภ.เมืองนครสวรรค์ ตนก็บอกว่าติดแข่ง ไปไม่ได้ อีกฝ่ายจึงต่อสายหาคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยให้รอ 10 นาที
ต่อมาคนที่อ้างเป็นตำรวจติดต่อมาบอกว่าเขาไปพัวพันกับยาเสพติด ฟอกเงิน ตอนนั้นก็สงสัยว่าตำรวจจริงหรือไม่ แต่บุคคลดังกล่าวก็ส่งบัตรประจำตัวให้ดู เป็นยศ พ.ต.อ. แล้วก็ให้เปลี่ยนมาคุยวิดีโอคอล
ทางนั้นถามว่าเปิดบัญชีที่จันทบุรีหรือไม่ แล้วบอกว่า 2 สัปดาห์ก่อนจับพ่อค้ายาเสพติดชื่อ สัญญา แซ่ลี้ อ้างว่าซื้อบุ๊กแบงค์จากตน 5 หมื่นบาท แล้วต๋องได้เงินเปอร์เซ็นต์จากการลำเลียงยาเสพติด 10 เปอร์เซ็นต์ 8.5 แสนบาท ตนบอกไม่รู้จัก
จากนั้นทางผู้แอบอ้างเป็นตำรวจบอกว่า ถ้าอย่างนั้นต้องแสดงความบริสุทธิ์เช็กเส้นทางการเงิน ถามว่ามีเงินฝากกี่แห่ง ตนก็บอก 5 แห่ง แล้วก็เริ่มให้โอนเงินเพื่อเช็กเส้นทาง พร้อมขู่ว่าตอนนี้ชื่อไปอยู่ชั้นศาลแล้ว ถ้าไม่ให้ความร่วมมืออาจถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน จนก็จิตตก กลัว โอนไปเรื่อยๆ คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเห็นบัตรว่าเป็นตำรวจจริง โอนไปจนเรื่อย ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ยืมแม่มาอีก 2 แสนบาท ตอนนั้นอยู่โต๊ะสนุกเกอร์ทีบีซี สนุกเกอร์ เตรียมซ้อม จนเพื่อนนักสนุกเกอร์เอะใจมาแย่งโทรศัพท์ไปแล้วด่าใส่โทรศัพท์ ก่อนวางสายไป สรุปแล้วโอนไป 10 รายการ โอนจนแบตเตอรี่โทรศัพท์แทบหมด หมดไป 3.2 ล้านบาท เงินสดทั้งตัวเหลือ 8 พันบาทเศษๆ เท่านั้น เพราะเงินที่ได้มา ส่วนใหญ่แปรทรัพย์สินไปซื้อที่ดิน
ต๋อง ศิษย์ฉ่อยเผยว่าตอนนี้ได้ไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลางไว้แล้ว ไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ทัน แล้วแต่บุญแต่กรรม ไปสถานีตำรวจ 3 รอบแล้ว เหนื่อยมาก วันที่ 19 พ.ค. 2566 ก็มีแข่ง ก็ไม่มีแก่ใจ ตอนนี้ไม่กล้ารับสายใครแล้ว