"คิตตี้ ภรรยาเอส กันตพงศ์" โพสต์หลังมีข่าวลือ ชาวเน็ตแห่ห่วงสภาพจิตใจ
เผยสตอรี่ "คิตตี้ ภรรยาเอส กันตพงศ์" หลังมีข่าวลือว่า "เอส กันตพงศ์" ออกจากโรงพยาบาล ชาวเน็ตเห็นแล้วแห่เป็นห่วงสภาพจิตใจ
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดเหตุ หนุ่ม เอส กันตพงศ์ วูบหมดสติกลางงานอีเวนท์ของช่อง ซึ่งเป็นเวลากว่า 22 วันแล้ว ที่หนุ่มเอสยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล โดยมีทางด้าน คิตตี้ คริสติน่า ภรรยาสาว คอยอยู่ดูแลเคียงข้างไม่ห่าง อย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด
ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่า เอส กันตพงศ์ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่แม้มีกระแสความยินดีอย่างมากจากแฟนๆ จำนวนมาก แต่ต่อมาคนใกล้ชิดอย่างผู้จัดการส่วนตัวและภรรยาเอส กันตพงศ์ ได้ออกมาแก้ข่าว บอกว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
โดยต่อมาทางด้าน คิตตี้ ภรรยาเอส ได้โพสต์แจ้งข่าวดีว่าเอส กันตพงศ์ ได้ย้ายออกจากห้อง ICU มาอยู่ห้องธรรมดาแล้ว ถือเป็นข่าวดีแต่ยังไม่ถึงขนาดหายดีออกจากโรงพยาบาลอย่างที่มีข่าวออกไป
ซึ่งในคืนเดียวกัน คิตตี้ ภรรยาเอส ก็ได้โพสต์ข้อความไว้ในไอจีสตอรี่ว่าข่าวดังกล่าวทำให้ครอบครัวรู้สึกเจ็บปวดมาก และไม่ตลกเลยที่มีคนพูดแบบนั้น
คิตตี้ โพสต์ข้อความว่า
"I have heard that there are many rumours that my husband is already released from the hospital"
We would really appreciate if there are no rumours like this spread as we already try to update as much as possible to the public My husband is still in hospital being treated and we are by his side every day If anything changes it will only be informed here or by proper interview Thank you so much It’s really hurts….
"Nobody wishes more for S to come home then us. We hope and pray for it every day.It is not a joke to just say something like this"
ซึ่งแปลได้ว่า "ฉันได้ยินข่าวลือจำนวนมากมาว่าสามีของฉันออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่เราจะซาบซึ้งใจมากหากไม่มีข่าวลือทำนองนี้ออกมาอีก เพราะเราเองก็พยายามเท่าที่จะทำได้ในการอัปเดตให้ทุกคนได้รู้"
"สามีของฉันยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและพวกเราก็อยู่เคียงข้างเขาทุกวัน ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบที่นี่ หรือไม่ก็ให้สัมภาษณ์อย่างเหมาะสม ขอบคุณมากค่ะ มันเจ็บปวดนะ ไม่มีใครอยากให้เอสได้กลับบ้านเท่าพวกเราหรอก พวกเราได้แต่หวังและเฝ้าภาวนาทุก ๆ วัน มันไม่ตลกเลยที่พูดแบบนี้"
ทำเอาชาวเน็ตต่างเป็นห่วงสภาพจิตใจของครอบครัวหนุ่มเอสเป็นอย่างมาก และตำหนิผู้ที่ปล่อยข่าวลือออกมา แม้เป็นข่าวดีแต่ในเมื่อไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็สร้างผลกระทบต่อจิตใจของครอบครัว ชี้ควรหยุดแค่นี้ได้แล้ว
ขอบคุณ thekittyway