ทนายเดชา เป็นทนายให้แพรรี่ ประกาศสู้ทนายอนันต์ชัย ลั่นใครแพ้ระวังเป็นหมา

09 มิถุนายน 2566

เดือดต่อเนื่อง ทนายเดชารับเป็นทนายให้ แพรรี่ ลั่นถึงทนายอนันต์ชัย ไม่ให้ราคาทนายขี้คุย พวกขี้คุยมักไปไม่รอด คดีนี้แพ้ระวังเป็นหมา

    ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์  เปิดเผยว่า ทาง แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร  ได้ทำหนังสือแต่งตั้งตนเองเป็นทนายความหลังถูกนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหลังจากที่แพรรี่โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นว่า

    “สอนธรรมมะไปด้วยสูบบุหรี่ไปด้วยทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นของเสพติดให้โทษ เอาอะไรมามั่นว่าชนะกิเลสตัณหา” โดยข้อความดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 25 พ.ค.66ที่ผ่านมา ทนายอนันต์ชัยได้ยื่นฟ้องแพรรี่ในฐานะผู้โพสต์และแฟนคลับที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกสองคน


   ทนายเดชา ระบุว่าหลังจากดูสำนวนคำฟ้องของโจทก์แล้วไม่พบสาระสำคัญแต่อย่างใดจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาทกรณีนี้แพรรี่ไม่ได้ระบุชื่อของโจทก์หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเลยแต่โจทก์คิดไปเอง การแสดงความคิดเห็นของแพรรี่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบตามกฎหมาย อย่าลืมว่าจำเลยเคยบวชเป็นพระอยู่ในผ้าเหลือง จบเปรียญธรรม 9 ประโยค ย่อมรู้กฎระเบียบของสงฆ์เป็นอย่างดี

ทนายเดชา เป็นทนายให้แพรรี่ ประกาศสู้ทนายอนันต์ชัย ลั่นใครแพ้ระวังเป็นหมา

  จากที่ตนเองดูแล้วจึงไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาทแต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตใจ ส่วนกรณีจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นแฟนคลับที่ถูกฟ้องด้วยนั้น โจทก์อ้างว่าถูกแพรรี่ว่าจ้างมาแสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเชื่อว่าคดีนี้ไม่มีมูล 

ทนายเดชา เป็นทนายให้แพรรี่ ประกาศสู้ทนายอนันต์ชัย ลั่นใครแพ้ระวังเป็นหมา

    ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนเองกับทนายอนันต์ชัยเป็นคนละชั้นกันจะส่งทนายฝึกหัดมาสู้กับตน นั้นสำหรับตนไม่ให้ราคากับทนายพวกนี้  พวกขี้โม้ พวกขี้คุยมักไปไม่รอด สุดท้ายกลายเป็นทนายไร้ราคา พร้อมฝากถามไป ยังทนายอนันต์ชัยผ่านสื่อมวลชน ถ้าคดีนี้แพ้ขึ้นมาเป็นถึงหมาขี้เรื้อนได้เลย

ทนายเดชา เป็นทนายให้แพรรี่ ประกาศสู้ทนายอนันต์ชัย ลั่นใครแพ้ระวังเป็นหมา

    พร้อมกันนี้ ทนายเดชา ยังทิ้งท้ายด้วยคำว่า “โฮ่งๆ” และ “จุ๊กกรู๊” ที่เป็นวลีเด็ดประจำตัว

ทนายเดชา เป็นทนายให้แพรรี่ ประกาศสู้ทนายอนันต์ชัย ลั่นใครแพ้ระวังเป็นหมา