ประธานาธิบดีเกาหลีใต้โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ หลังน้ำท่วมคร่าชีวิตผู้คน

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ หลังน้ำท่วมคร่าชีวิตผู้คน : จากสถานการณ์ น้ำท่วมเกาหลีใต้ ที่หลายคนยังเป็นกังวล ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้นำเกาหลีใต้ เมื่อประธานาธิบดียุน ซอก ยอล  (Yoon Suk Yeol) โยนความรับผิดชอบและความผิดพลาดที่มีผู้เสียชีวิตทะลุ 40 คน ในเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่ม ทั้งยังอ้างเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ climate change ที่ต้องรับมืออีกด้วย

 

โดยฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง หลังฤดูฝนที่เริ่มต้นเมื่อปลายเดือนมิถุนายน กำลังเข้าสู่จุดสูงสุดของปี ได้ทำให้น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (13 กรกฎาคม) และยังนำไปสู่โศกนาฏกรรมน้ำพุ่งทะลักเข้าไปในอุโมงค์ลอดใต้ดิน ในเมืองชองจู ที่มีความยาว  685 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ พุ่งทะลุ 40 คนแล้ว 

 

เหตุการณ์ในอุโมงค์ เป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพรถบางคันถูกความแรงของน้ำดันทะลุกระจกจนแตก บ่งชี้ถึงความทุกข์ทรมานของคนที่ติดอยู่ในรถ ซึ่งขณะเกิดเหตุ มีรถติดในอุโมงค์ 17 คัน รวมทั้งรถบัสโดยสาร 1 คัน ประชาชนพากันตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันและรับมือภัยพิบัติ หลายคนชี้นิ้วไปที่ความผิดพลาดของรัฐบาล ที่ไม่สั่งปิดอุโมงค์ เพราะในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุสำนักควบคุมอุทกภัย ได้ออกคำเตือนถึงระดับน้ำในแม่น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างอันตราย และแนะนำให้ทางการสั่งเลี่ยงการจราจรลอดอุโมงค์
 

 

 

อีกทั้ง ครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุว่า สามารถหลีกเลี่ยงความสูญเสียนี้ได้ ถ้าทางการรับมือกับสถานการณ์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ 

ด้าน สื่อท้องถิ่นได้เผยแพร่ภาพมุมสูงที่แสดงให้เห็นโคลนและมวลน้ำที่สูงจนถึงหลังคาบ้าน ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า  สภาพอากาศจะเลวร้ายต่อไป และฝนจะตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันพุธหน้า (26 กรกฎาคม) 

ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ที่เพิ่งเดินทางกลับจากยุโรป ก็โยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือภัยพิบัติเช่นกัน โดยระหว่างนั่งเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินกับทีมรับมือภัยพิบัติเมื่อวันจันทร์ เขาบอกว่า สถานการณ์เลวร้ายลง เพราะการจัดการพื้นที่อ่อนไหวอันไร้ประสิทธิภาพ 

ผู้นำเกาหลีใต้บอกว่า "เราได้เน้นย้ำประเด็นการควบคุมการเข้าถึงพื้นที่อันตราย และการอพยพก่อนล่วงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการตามหลักการพื้นฐานของการรับมือภัยพิบัติ ณ จุดเกิดเหตุได้ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะให้การรับประกันความปลอดภัยต่อประชาชนได้" 

เขายังประกาศ "ยกเครื่อง" มาตรการรับมือสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหาโลกร้อน โดยบอกว่า "ภาวะสภาพอากาศสุดขั้วแบบนี้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่เราต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเกิดขึ้น และเราต้องรับมือกับมัน"

อย่างไรก็ตาม การที่ผู้นำเกาหลีใต้ กล่าวถึงมาตรการรับมือภัยพิบัติเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ย้อนรำลึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2565 ที่กรุงโซลเผชิญฝนตกหนักรุนแรงที่สุดในรอบ 115 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน ซึ่งในตอนนั้น มีการพูดถึง "พันจีฮา" หรือ ที่อยู่อาศัยที่คับแคบกึ่งใต้ดินของคนที่มีฐานะยากจน แบบเดียวกับภาพยนตร์ที่ได้รางวัลออสการ์เรื่อง Parasite ที่ตอนนั้น ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คือ พวกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แออัดที่ว่านี้