สองผัวเมีย เจ้าของโกดังพลุระเบิด ที่มูโนะ ขอเข้ามอบตัวแล้ว

วันที่  4 ส.ค.66 คืบหน้าล่าสุด จากกรณีเหตุโกดังเก็บพลุระเบิด ที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แรงระเบิดส่งผลทำให้บ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย ผู้เสียชีวิต 12 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 121 ราย โดยล่าสุดทางด้านบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าล่าสุด ผู้ต้องหาสองสามีภรรยาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว หลังจากหลบหนีไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย 

 

 

โดยจะเข้ามอบตัวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสทที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสในช่วงบ่าย วันที่ 5 สิงหาคมนี้ สำหรับคดีนี้ไม่มีความสลับซับซ้อน ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีนักการเมืองหรือกลุ่มคนมีสีอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด เพียงแต่โกดังดังกล่าวได้มีการขออนุญาตประกอบกิจการโดยไม่ถูกต้อง คือ ไม่ได้ระบุประเภทของกิจการในใบอนุญาต

ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่รัฐผู้ออกใบอนุญาตและบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 อย่างแน่นอน แต่จะมีกี่คนนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยเบื้องต้นมีหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด 5 หน่วยงานมประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข  

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าผู้ประกอบการมีการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ขณะนี้ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งพบเส้นทางดังกล่าวแล้ว เช่นเดียวกับเส้นทางการเงินของ อสม.ด้วย 

  อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้เกิดจากความประมาทเลินเล่อ ไม่ใส่ใจของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องมีการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบพิเศษในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้  ที่กำหนดให้กรณีมีผู้เสียชีวิตจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องได้ค่าชดเชยศพละ 500,000 บาทด้วย

    นอกจากนี้ ยังต้องมีการตรวจสอบไปถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดีเดียวกันเมื่อปี 2559 ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อนำมาประกอบและปรับปรุงให้สำรวมมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น