เปิดความเสียหายเบื้องต้น "ไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี" เผาวอดกว่า 20 คูหา

เปิดความเสียหายเบื้องต้น "ไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี" เผาวอดกว่า 20 คูหา : สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ชุมชนย่านการค้าเก่าแก่ของคนสิงห์บุรี อายุกว่า 100 ปี เมื่อวันที่19 ส.ค.66 เวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่งผลให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับย่านดังกล่าวมีร้านขายแก๊สอยู่ด้วย มีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นชุมชนตลาดเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 100 ปี เป็นชุมชนย่านการค้าที่มีพื้นที่ถนนเข้าออกค่อนข้างคับแคบ ทำให้ต้องใช้เวลาเคลียร์พื้นที่ กันผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง และยานพาหนะที่จอดกีดขวางเส้นทางเข้าออกเพื่อปฏิบัติการดับเพลิง

 

มีรายงานว่า ต้นเพลิงอาจจะมาจากร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์สีและทินเนอร์ที่ปิดกิจการไปแล้ว แต่ยังคงมีสินค้าอยู่ โดยระหว่างเกิดเหตุไม่พบว่ามีผู้ดูแลอยู่ในร้านดังกล่าว 

 

จากการสอบถามชาวบ้านในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีเสียงคล้ายๆ กับระเบิดดังขึ้น 2-3 ครั้ง จากนั้นไฟก็ลูกโชน จนสูงเกือบ 3 เมตร ด้านเจ้าหน้าที่แนะนำผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ ก่อนจะใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงจนกว่าจะคุมเพลิงได้ 

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะติดตามตัว นายมณู เศรษฐวานิชย์ เจ้าของร้านต้นเพลิง เพื่อสอบถามสาเหตุและที่มาของต้นเพลิงต่อไป รวมถึงเร่งสรุปความเสียหายในพื้นที่ต่อไป

สำหรับตลาดอินทร์บุรี เป็นชุมชนย่านการค้าเก่าแก่ของ จ.สิงห์บุรี มีอายุกว่า 100 ปี ภายในตลาดอินทร์บุรีมีตลาดย่อยอยู่ 3 ตลาดติดกัน คือ ตลาดเหนือ ตลาดกลางและตลาดใต้ โดยเป็นตลาดสดที่ขายกันช่วงเช้า มีทั้งผักผลไม้และอาหาร ต่อมาบริเวณหน้าตลาดกลางมีการจัดตั้งตลาดค่ำ หรือตลาดโต้รุ่งขึ้น เพื่อให้คนสิงห์บุรีได้จับจ่ายซื้ออาหารการกินในช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำ

 

อย่างไรก็ตาม จากความเสียหายเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า จะส่งผลให้ชุมชน ทั้งบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายมากกว่า 20 คูหา ทั้งร้านจำหน่ายอาหาร เสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน ร้านตัดผม ร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายเกือบ 100 %

ภาพจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM