สก.หญิงก้าวไกล แฉลากไส้ "สส.ปูอัด" บอกเลยวีรกรรมไม่ธรรมดา
“สก.ก้าวไกล” แฉลากไส้ “สส.ปูอัด” วีรกรรมสมัยเรียนบอกเลยไม่ธรรมดา ลั่น!ใช้ความจนเป็นเครื่องมือในการสร้างความนิยมส่วนตัว
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย สก.เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสเดือดบนเฟซบุ๊ก เพื่อกดดันให้ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด สส.เขตจอมทองพรรคก้าวไกล แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อเหยื่อ ซึ่งเป็นทีมงานของพรรคก้าวไกล ด้วยการลาออกจากพรรค
ทั้งนี้ น.ส.ภัทราภรณ์ สก.ก้าวไกล ได้ออกมาทวิตลากไส้วีรกรรมสมัยเรียนเปิดเผยเรื่องที่ สส.ปูอัด ใช้ความยากจน เรียกคะแนนสงสารจากเพื่อนสมาชิกพรรค จนหลายคนหลงเชื่อ และ มอบข้าวของ หรือ เงินทุนช่วยสนับสนุนในการทำงานการเมือง ทั้งที่ความจริง ไม่ได้ยากจนข้นแค้น โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งดังนี้
“ดิฉันในฐานะที่เป็น สก.จากพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าเรื่องการละเมิดทางเพศกรณีคุณไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.เขตจอมทอง พรรคก้าวไกล เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ถูกร้องไม่ยอมรับในสิ่งที่ทำ การโกหกหน้าด้านๆออกสื่อก่อนจะเข้าไปรับการพิจารณาเมื่อคืนที่ผ่านมา รวมถึงการคุกคามเหยื่ออีกหลายครั้งเพื่อ ขอให้เหยื่อบอกว่าสมยอม”
ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดที่ผู้ถูกร้องพูดซ้ำๆว่า “ทีมงานร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา”เป็นการทำร้ายเหยื่อทั้ง 3 ซ้ำอีก เนื่องจากเหยื่อเป็นทีมงานที่ช่วยผู้ถูกร้องหาเสียงด้วยความหวังและความฝันร่วมกันกับพรรคก้าวไกลด้วย การที่ผู้ถูกร้องล่วงละเมิดเหยื่อแล้วยังกล้าพูดออกสื่อว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมานั้น เป็นความ Tone-deaf อย่างถึงที่สุดและไม่มีความละอายแก่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว
อีกเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในสมการการตัดสินของพรรคในคืนที่ผ่านมา คือเรื่องการโกหกอย่างเป็นนิสัยของผู้ถูกร้อง หากท่านติดตามผู้ถูกร้องมาตลอด ท่านจะพบว่าผู้ถูกร้องพยายามขาย “ความจน” ของตนเอง และผู้ถูกร้องก็ใช้ความจนนี้เป็นเครื่องมือในการสร้างความนิยมส่วนตัว ตลอดจนวางตัวเป็นเหยื่อของสังคมว่าตนไม่เคยได้รับโอกาสมาทั้งชีวิต ทำให้เหยื่อ รวมถึงเพื่อนสส.หลงเชื่อจนนำไปสู่ความเห็นใจ หลายครั้งจึงมีการสนับสนุนสิ่งของหรือทุนทรัพย์ให้ผู้ถูกร้อง ซึ่งผู้ถูกร้องได้กระทำเป็นแพทเทิร์นเดิมซ้ำๆ
ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ถูกร้องอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยวสองชั้น ชั้นสองของบ้านเป็นไม้สัก มีพระเครื่องจำนวนมาก คนในครอบครัวประกอบธุรกิจส่วนตัว ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอย่างที่ผู้ถูกร้องพยายามนำเสนอให้พี่น้องประชาชนเชื่อ
ดิฉันขอเรียกร้องให้ผู้ถูกร้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการพูดความจริงทั้งหมดแก่สาธารณะ ชดใช้เยียวยาตามที่เหยื่อเรียกร้องเต็มจำนวน และลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของทีมงานที่คุณล่วงละเมิดทั้ง 3 ราย
สุดท้ายนี้ ดิฉันขอชื่นชมกรรมการวินัยและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ปกป้องเหยื่ออย่างถึงที่สุดแม้จะต้องแลกมาด้วยการเสียชื่อเสียงของพรรค และหวังว่าบทเรียนราคาแพงครั้งนี้จะเป็น Wake-up call ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของพรรคก้าวไกลในเรื่องการคุกคามทางเพศอย่างจริงจังตามที่ได้ให้สัญญากับสังคมไว้เสียที”