นายกฯ ตั้งเป้าเพิ่มพลังงานทดแทนเป็น 50% ค่าไฟ 4.10 บาท/หน่วย
นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ ในงาน Sustainability Forum 2024 ย้ำไทยมีพลังงานสะอาดเป็นจุดแข็งดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในไทย เล็งประกาศเพิ่มพลังงานทดแทนเป็น 50% ตั้งเป้าทำให้ค่าไฟอยู่ที่ 4.10 บาท/หน่วย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง Clean Energy for Thailand Economy through Sustainability ในงาน Sustainability Forum 2024 จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
การเดินทางไปเยือนต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องพลังงานสะอาดจากการที่ได้เดินทางไปเยือนต่างประเทศและหารือในประเด็นการค้าเพื่อดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทยพบว่าประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญและสนใจในการเรื่องของการขับเคลื่อน Clear Energy และ Net Zero อย่างจริงจังและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศไทยก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน โดย SDG Index ปีนี้อยู่ที่อันดับ 43 ของโลก และเป็นประเทศที่มี SDG Index ดีที่สุดในอาเซียน ตรงนี้เป็นจุดขายที่ใหญ่ที่สุดของไทยในการที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในประเทศไทยได้มากขึ้นซึ่งส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและการย้ายฐานการผลิตจากอุตสาหกรรมในประเทศจีนและอีกหลายประเทศมาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย
ประเทศไทย vs Regional เทียบกับเพื่อนบ้าน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าประเทศไทย vs Regional เทียบกับเพื่อนบ้าน ประเทศไทยมีความพร้อมมาก โดยไฟฟ้าบ้านที่ประเทศไทยเสถียรมาก เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไฟแทบไม่เคยตก หรือดับ ซึ่ง System Average Interruption Index ทั้งระบบไทยอยู่ที่ 20 - 35 เมื่อเปรียบเทียบมาเลเซียอยู่ที่ 45 และเทียบกับฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 138 ซึ่งพลังงานสะอาด ซึ่งนี่หมายถึงทิศทางที่เราจะเดินไปข้างหน้า โดยจุดแข็งของประเทศไทยคือมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีทรัพยากร มีสายส่งที่พร้อมในประเทศ ปัจจุบันเรามี Renewable mix อยู่ที่ 28% ในปี 2021 แต่เราจะเพิ่มให้มากกว่า 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำแผน PDP (Power Development Plan ) และจะประกาศใช้ต้นปีหน้า
ตั้งเป้าทำให้ค่าไฟอยู่ที่ 4.1 บาท/หน่วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยจะเป็น Hub ของพลังงานสะอาดนั้น ค่าไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญ โดยรัฐบาลตั้งเป้าจะทำให้ค่าไฟฟ้าลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพลังงาน สำนักงาน กกพ. EGAT ปตท. และอีกหลายภาคส่วน โดยเป้าหมายที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตั้งไว้ คืออยากทำให้ค่าไฟอยู่ที่ 4.10 บาทให้ได้ ซึ่งนายกุลิศ สมบัติศิริ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และเป็นอดีตปลัดกระทรวงพลังงานก็เห็นว่าสามารถทำได้โดยคำนึงไม่ให้กระทบในหลายภาคส่วน
เล็งสนับสนุน Solar ภาคครัวเรือน
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการสนับสนุน Solar ภาคครัวเรือนว่าเป็นเรื่องสำคัญโดยจะสนับสนุนการติดตั้ง Solar Rooftop ในภาคครัวเรือน แต่ปัจจัยที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คือการ Upgrade ตัวระบบเครือข่ายทั้งหมด ให้สามารถทำ Net Metering ได้ รวมทั้งการออก Sustainability-linked Bond ซึ่งในอดีต ประเทศไทยเคยออก Green bond 12.5 billion USD ที่จะมาช่วยสนับสนุนการดำเนินมาตรการสีเขียวต่างๆ โดยในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีจะออก Sustainability-linked bond อีก 2 billion USD ซึ่งจะมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันให้ประเทศเราพร้อมยิ่งขึ้นไปอีก
“ พลังงานสะอาด เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจไทยและรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างสูงสุด ซึ่งในอนาคตพลังงานสะอาดจะกลายเป็นเรื่องที่แฝงอยู่ในมาตรการการกีดกันทางการค้า หรือถูกกระทบผ่าน Supply Chain ทั้งหมด ดังนั้นการที่ภาคธุรกิจทำให้บริษัทของตนเองเป็น Green ยังไม่เพียงพอแต่ต้องมีการให้องค์ความรู้และการให้ความช่วยเหลือด้วยเพื่อดึงทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันในการพัฒนาการใช้พลังงานสะอาด วันนี้ขอขอบคุณเครือเนชั่นที่เป็นผู้จุดประกายในเรื่องนี้มาโดยตลอดทำให้เราทุกคนต้อง Alert เรื่องนี้ แม้ต้นทุนการทำธุรกิจอาจจะสูงขึ้นบ้างแต่ก็เป็นเรื่องที่เราต้องคำนึงถึงตลอดเวลาและอยู่กับสิ่งนี้ไปให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่ดีและเป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อให้โลกเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น”