ตร.เล่าชัดมูลเหตุ ลุงพล ลงมือน้องชมพู่ อาจเริ่มขึ้นจากน้ำผึ้งหยดเดียว
ตร.เล่าชัดมูลเหตุ ลุงพล ลงมือน้องชมพู่ อาจเกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียว ชี้ไม่ได้ตั้งใจแต่นิสัยใจร้ายทำร้ายตัวเอง
จากคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาจำคุก 20 ปี นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ว่าเป็นผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ โดยหลักฐานที่มัดตัวลุงพลคือเส้นผม ปริศนาที่ตำรวจเจอในรถจนสามารถเชื่อมโยงกับเส้นผมจุดเกิดเหตุ ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ศาลยกฟ้อง ก่อนที่ต่อมาลุงพลจะได้รับการประกันตัวไปในวงเงิน 500,000 บาท โดยในรายการโหนกระแสได้พูดถึงประเด็นของลุงพล โดยในบางช่วงพิธีกรอย่าง หนุ่ม กรรชัย ได้ถามตำรวจว่า ในมุมของตำรวจมองว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มาจากตรงไหน ทำไมต้องพาน้องไปข้างบน ตำรวจสรุปสำนวนยังไง
ซึ่งตำรวจก็ตอบว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวก็ว่าได้ เริ่มต้นคือ นายไชย์พลมีนัดไปส่งพระที่ต่างอำเภอ และมีเจตนาดีมารับน้องเพราะอยากไปเที่ยวด้วยกัน แต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน อาจจะเกิดจากการที่น้องงอแง และลุงพลใจร้อน คุมสติตัวเองไม่ไหว จึงพาน้องไปทิ้งไว้ในป่า พอกลับมาจากการส่งพระ ก็เห็นคนตามหาน้องกันทั่ว สิ่งที่นายไชย์พลถามทุกคนคือ ทำไมแม่น้องชมพู่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ทำไมต้องเรียกคนมาช่วยหาเยอะแยะ
จากนั้นนายไชย์พลก็หายไปราว ๆ 2 ชั่วโมง ประมาณบ่าย 2 ถึง 4 โมงเย็น ส่วนคนอื่น ๆ ที่ตามหาเด็ก ก็มักจะไปกันเป็นกลุ่ม ป้องกันการหลงป่า กระทั่งมีพยานเห็นว่า นายไชย์พล เดินลงจากป่าตอน 4 โมงเย็นมาคนเดียว มันก็ไม่สมเหตุสมผลว่า ทำไมหายไปคนเดียว 2 ชั่วโมง ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่า ในช่วงที่หายไปนั้น ลุงพลได้พาร่างน้องไปทิ้งไว้บนเขา โดยที่น้องมีชีวิตอยู่ ถ้าหากพากลับมาหาแม่ เรื่องก็จบ แต่เขาไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาทำผิดไปแล้ว
ในเรื่องของแรงจูงใจที่เป็นปริศนา ต้องบอกว่า เด็กอ่อนประมาณ 3 ขวบ เวลางอแงก็จะมีผู้ใหญ่บางคนจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หงุดหงิด ไม่สามารถจัดการให้เด็กหยุดร้องได้ หรือจัดการตัวเองได้ ก็เผลอกระทำกับเด็กไป พอพลาดไปแล้ว วิธีการแก้ปัญหาของเขาจากเรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมจึงบอกว่า น้ำผึ้งหยดเดียว แทนที่จะแก้ด้วยการเอามาคืน กลับเอาไปหลบไม่ให้ใครรู้
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตคือ การขาดน้ำ ขาดอาหาร ส่วนร่องรอยบาดแผลระบุไม่ได้ว่าถูกทำร้ายหรือไม่ เพราะมีส่วนเน่าช่วงปากและลำคอ ถ้าหากจะมีร่องรอยถูกทำร้ายก็น่าจะอยู่จุดนี้