หนุ่มพบรักต่างวัย พอได้สัมผัสกัน อยากเลิก ไม่ใช่เพราะหน้าตา แต่เพราะ กลิ่น

หนุ่มพบรักต่างวัย พอได้สัมผัสกัน อยากขอเลิก ไม่ใช่เพราหน้าตา แต่เพราะ กลิ่น : ยุคสมัยในปัจจุบันอาจจะมีให้เห็นในหลายๆ คู่แล้ว สำหรับ คู่รักต่างวัย ไม่ว่าจะเป็นเคสผู้ชายอายุมากกว่าผู้หญิง 10 กว่าปี หรือ ผู้หญิงอายุมากกว่าผู้ชาย 10 กว่าปี แต่ที่เห็นแปลกที่สุดน่าจะเป็นคู่รักต่างวัยชาวไต้หวันคู่รักที่ได้พบรักกับสาวที่มีอายุมากกว่าทางโลกออนไลน์ แต่พอได้สัมผัสกันเท่านั้นแหละ ทำเขาอยากขอเลิกทันทีเดี๋ยวนั้นเลย

 

 

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในไต้หวัน ซึ่งหนุ่มรายหนึ่งดูเหมือนว่าเขาจะมีทัศนคติส่วนตัวที่น่าประหลาดใจไม่น้อย เมื่อเขาลองคบสาวต่างวัยที่อายุห่างกันมากถึง 10 ปี แต่กลับรู้สึกว่าเธอมี "กลิ่นแก่" ที่รับไม่ได้ และเขาได้โพสต์ระบายมันลงในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดคอมเมนต์เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องอย่างดุเดือด

 

โดยหนุ่มรายนี้เผยว่า เขาอายุอยู่ในช่วง 30 ปี เมื่อไม่นานมานี้เขาได้คบหากับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอายุมากกว่า อายุของเธออยู่ในช่วง 40 ปี จนกระทั่งเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ในวันที่ 30 ธันวาคม เขาได้มีโอกาสจูบเธอเป็นครั้งแรก และมันก็ได้สร้างความไม่ประทับใจให้เขาเป็นอย่างยิ่ง จนถึงขนาดอยากจะขอเลิก ซึ่งเหตุผลไม่ได้เกี่ยวกับการจูบ แต่เกี่ยวกับ "กลิ่น"

 

 

เขาเล่าว่า แฟนสาวรุ่นพี่คนนี้มีกลิ่นคนแก่ เขารู้สึกทั้งตกใจและประหลาดใจเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีกลิ่นเหมือนคนชราสูงวัย ทั้งที่เธออายุอยู่ในช่วง 40 ปีเท่านั้น เขาจดจำกลิ่นนั้นได้เป็นอย่างดี มันน่ากระอักกระอ่วนจนชวนให้เขาเกือบจะอาเจียน หลังจากกลับไปที่บ้าน เขาก็รีบฉีดสเปรย์น้ำหอมใส่เสื้อผ้าทั้งตัว

 

"มีใครช่วยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บ้าง ?" เขาตั้งคำถามในสื่อออนไลน์ดังกล่าว

 

หลังจากนั้นไม่นานโพสต์เรื่องราวนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว มีหลายคนเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นวิพาษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ขณะเดียวกันก็มีผู้ให้คำอธิบายว่า กลิ่นแก่สามารถเกิดขึ้นได้จากการผสมกันระหว่างเหงื่อ ไขมัน และแบคทีเรียบนร่างกายของมนุษย์ ยิ่งอายุมากขึ้น ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อก็ทำงานลดลง ทำให้เกิดการสะสมของกรดไขมันบางชนิด ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นที่ว่านั้น ดังนั้นหากเขารักเธอจริงก็ควรบอกเธอตรงๆ เพราะเธออาจจะไม่รู้ตัว พร้อมแนะนำว่าวิธีว่าอาจจะหาตัวช่วยระงับกลิ่น รวมไปถึงการดูแลเรื่องสุขภาพและการกิน

 

ข้อมูลจาก China Times