กรมราชทัณฑ์ ยันไม่เลือกปฏิบัติ แจงความจริง ไม่ใช้คำนำหน้า น.ช. กับทักษิณฯ
กรมราชทัณฑ์ ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติ แจงทำไมไม่ใช้คำนำหน้าชื่อ น.ช. กับทักษิณ ชินวัตร ชี้คำนำหน้าชื่อผู้ต้องขัง "น.ช." และ "น.ญ." เพื่อแบ่งประเภทของนักโทษเด็ดขาดเท่านั้น
จากกรณีที่มีข่าวถูกพูดถึงการใช้คำนำหน้าชื่อสำหรับผู้ต้องขังที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ กรมราชทัณฑ์ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร ที่พาดพิงและกล่าวว่ากรมราชทัณฑ์ ให้อภิสิทธิ์ ดูแลผู้ต้องขัง 2 มาตราฐาน ไม่ใช้คำนำหน้าชื่อว่า น.ช. กับนายทักษิณฯ ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ โดยกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงว่า
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 "นักโทษเด็ดขาด" หมายความว่า บุคคลซึ่งถูกขังไว้ตามหมายจำคุกภายหลังคำพิพากษาถึงที่สุดและให้หมายความรวมถึงบุคคล ซึ่งถูกขังไว้ตามคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยการใช้คำนำหน้าชื่อว่า นักโทษเด็ดขาดชาย (น.ช.) หรือนักโทษเด็ดขาดหญิง (น.ญ.) จึงเป็นเพียงถ้อยคำที่ใช้ในการแบ่งประเภทของนักโทษเด็ดขาด
โดยใช้เพศเป็นเกณฑ์กำหนดเท่านั้น ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และการใช้คำนำหน้าชื่อเหล่านี้จะใช้ในงานราชทัณฑ์ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานเท่านั้น หากต้องมีการเปิดเผยชื่อ-นามสกุล ออกสู่สาธารณชน จะไม่ใช้คำนำหน้าชื่อด้วย น.ช. หรือ น.ญ. เพื่อบ่งบอกสถานะความเป็นผู้ต้องขัง
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรในการคืนคนดีสู่สังคม รวมถึงอาจกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องขัง เนื่องจากในปัจจุบันโลกโซเชียลและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็วและยังคงอยู่ในระบบอย่างยาวนาน จึงอาจทำให้เป็นการตีตรา ผู้ต้องขังเหล่านี้ไปตลอด ซึ่งกรมราชทัณฑ์ยังหวังว่าจะสามารถดำเนินการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังทุกราย ให้ได้รับการยอมรับจากสังคม และดำเนินชีวิตภายหลังพ้นโทษได้อย่างปกติสุขไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
กรมราชทัณฑ์ มิได้เลือกปฏิบัติใช้คำนำหน้าชื่อว่า นาย เฉพาะกับนายทักษิณเท่านั้น โดยที่ผ่านมาหากต้องมีการเปิดเผยชื่อ-นามสกุล ของผู้ต้องขังรายอื่นๆ ออกสู่สาธารณชน จะใช้คำนำหน้าชื่อว่า นาย นาง หรือ นางสาว เช่นเดียวกันกับการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์เมื่อออกไปรักษาโรงพยาบาลภายนอก รวมถึงระบบการบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนก็จะใช้คำนำหน้าชื่อเป็นนาย นาง หรือ นางสาว เช่นเดียวกัน
โดยกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับคำนำหน้าชื่อเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อมิให้เกิดการตีตราหรือบ่งบอกสถานะความเป็นผู้ต้องขังไปตลอดชีวิต