เจาะลึก "โครงการนาคราชนคร" เตรียมลุยต่อหลังชนะคดี 

ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่คนไทยนั้น อยากจะทราบและรู้ข้อมูลของ “นาคราชนคร” ซึ่งทางทีมข่าว"ไทยนิวส์"  ได้มีการสัมภาษณ์ทายาทของตระกูล สิงห์สมบุญ โดย "ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ" ได้เล่าให้เราฟังถึงแนวคิดในการสร้าง “นาคราชนคร” ซึ่งเป็นการร่วมกันทำระหว่างฝั่งไทยกับลาว

 

เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ระดับหมื่นล้านบาทเพื่อสร้างเศรษฐกิจริมแม่น้ำโขง ภายใต้การลงทุนนับหมื่นล้านบาท ของ "บริษัทเอเอซี กรุ๊ป" แห่งครอบครัว "สิงห์สมบุญ"

สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ที่ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ติดแม่น้ำโขง ตรงข้ามบ้านดอนมหาวัณ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ครอบคลุมพื้นที่ 1,200 ไร่ ห่างจากจุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 ไม่ถึง 1 กิโลเมตร และห่างจากถนนสาย R3a เพียง 6 กิโลเมตร

ซึ่ง ดร.เหมโชค ได้มีการพูดถึงแนวคิดในการรวม อาคารพาณิชย์ศูนย์รวมร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ศูนย์กระจายสินค้า สถานีขนส่งทางรถและเรือ ปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ฯลฯ ซึ่งการจะรวมได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นาคราชนครเราทำได้ เพราะเรานั้นเปรียบเสมือนประตูในการพาทั้งนักท่องเที่ยวทั้ง จีน ลาว ไทยเข้ามา ซึ่งพอเรารวมได้นั้นก็มีเป็นสร้างรายได้ในแก่ประเทศไทยของเรา 

โดย โครงการจะให้ความ สำคัญกับการท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมกับ จ.เชียงราย อย่างมาก จึงพัฒนาให้มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เราไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องการจะไม่มีคนมาเยือน เพราะอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นประตูเชื่อมประเทศไทยกับกลุ่มลุ่มน้ำโขงโดย เฉพาะจีน จึงคาดว่าเมื่อเปิดใช้สะพานตลาดแห่งนี้ก็จะให้บริการรองรับคาราวานนักท่อง เที่ยวได้ต่อไป

โดยผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า พี่น้องไทยกับลาว จะได้อะไรจากโครงการนาคราชนคร ซึ่ง ดร.เหมโชค ได้เล่าให้ฟังว่า โครงการของเราเปรียบเสมือนทางผ่าน ใครจะที่ขนส่งสินค้าก็ต้องใช้เส้นทางเรา ใครเข้าถึงสินค้ามากกว่าก็จะได้ประโยชน์จากจุดนี้ 

ซึ่ง ดร.เหมโชค ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เตรียมที่จะดำเนินโครงการต่อหลังและประกอบกิจการแบบเดิม จากที่เรานั้นพึ่งจะชนะคดีกับทางทุนร่วมเกาหลีซึ่งเป็นเพื่อนแท้ๆของตน  ซึ่งเราต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ของช่วยเหลือเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด