เปิดเส้นเงินดิจิทัล "บอสดิไอคอน" โยกหนีก่อนโดนจับ พบเป็นเหรียญตามยึดยาก
"เอกภพ สายไหม" เปิดเส้นเงิน 8-9พันล้าน คาดเป็น "บอสดิไอคอน" ถูกโอนก่อน โค้ชแล็ป โดนจับ จี้ตามหา "ฮาร์ดแวร์ วอลเล็ต" พบเป็นเหรียญที่ตามยึดยาก
จากกรณีคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" หลังจากก่อนหน้านี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ โพสต์ผ่านเพจ เอกภพ สายไหม แฉเบื้องลึกดิไอคอนกรุ๊ป พบเส้นเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ "โค๊ชแล็ป"โปรแกรมเมอร์ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง พบเป็นเหรียญที่ตามยึดยาก ให้ บช.ก.ตรวจสอบว่าเป็นเงินของ บอสดิไอคอน คนใดหรือไม่
โดย นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อวาน( 17ต.ค.67) ตอนช่วงค่ำ ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต ได้ส่งข้อมูลมาให้ตนได้เข้าไปดูเพื่อตรวจสอบ ในระบบ USDT Explorer ซึ่งเป็นบริการดู Tranaction ของเหรียญ USDT ทั้งโลก
จึงได้ไปเจอกับ 5 Transaction ที่น่าสงสัย เพราะมีการโอนเงิน USDT จาก chain ETH หรือ ERC-20 กับ chain TRON หรือ (TRC-20) จำนวนมูลค่ารวม 297,093,292 USDT หรือ 9,849 ล้านบาท ออกไปยังกระเป๋าปลายทางที่เป็น Exchange หนึ่งของประเทศ USA รัฐแคลิฟอเนีย
ซึ่งต้นทางมาจาก Exchange จากอีกประเทศหนึ่ง แล้วหลังโอนเสร็จ ก็มีผู้ต้องหาคนสำคัญคนหนึ่งในคดีดิไอคอนเข้ามอบตัว และขณะนี้จากที่ตรวจสอบเหรียญ USDT ถูกตั้งขายเป็น ETH (อีเทอเรียม)ซึ่ง USDT เป็น stable coin
โดยราคามันจะอ้างอิงกับเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ทำให้เชื่อว่าผู้กระทำจงใจโอนเงิน USDT ไปแลกเปลี่ยนทั้งหมดให้เป็น ETH (อีเทอเรี่ยม) ซึ่งเป็นเหรียญที่ตามตรวจยึดยาก กว่า USDT ปัจจุบันกระเป๋าปลายทางยังคงขายเหรียญ USDT เป็น ETH อยู่ทุกนาที คาดว่าเป็นการตั้งขายอัตโนมัติ
จากข้อมูลทั้งหมด ตนจึงขอให้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบ Tranaction ดังกล่าว ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ หากเกี่ยวข้องจะได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาแลกเป็นเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย