หนุ่มช้ำซ้ำซ้อน แม่เสีย ทิ้งมรดก 28 ล้านไว้ให้ แต่ธนาคารไม่ถอนเงินมาใช้
หนุ่มช้ำซ้ำซ้อนแม่เสียชีวิต ทิ้งมรดก 28 ล้านไว้ให้ในสมุดบัญชี แต่พอจะไปเบิกเงิน ธนาคารบอกถอนเงินออกมาไม่ได้
กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ในจีน เมื่อหลายสื่อในพื้นที่ได้รายงานเรื่องราว "มรดก" ของชายหนึ่งได้รับ หลังจากที่แม่ผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ แต่เขาต้องมาเจอกับเรื่องราวสุดยุ่งเหยิงตามมา เพราะทางธนาคารแจ้งว่า "มรดก" ที่เขาได้รับนั้นเป็นของปลอม จึงเป็นของคำถามที่คาใจชาวเน็ตทุกคนตอนนี้
เรื่องราวเกิดขึ้นกับ ชายจากมณฑลเจียงซู ได้รับมรดกจากแม่เป็นสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารแห่งหนึ่ง โดย หวงเสี่ยวเหม่ย แม่ของเขา ตั้งใจที่จะทิ้งเงินก้อนนี้ไว้ให้ลูกชายเมื่อเธอจากโลกนี้ไป เธอนำสมุดบัญชีเก็บใส่กล่องเหล็กไว้ และบอกลูกชายให้ไปตามหาสมุดบัญชีเล่มนี้หลังจากที่เธอเสียชีวิต
ลูกชายเศร้าเสียใจอย่างมากกับความสูญเสีย จนเขาลืมเรื่องสมุดบัญชีเล่มนี้ไปอย่างสิ้นเชิง กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปี ในวันครบรอบการตายของแม่ ชายหนุ่มจึงนึกเรื่องคำสั่งเสียของแม่ได้ เขาไปตามหาสมุดบัญชีดังกล่าวจนพบ ภายในนั้นมีเงินฝากของแม่จำนวนทั้งสิ้น 6 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 28ล้านบาท
จากนั้นเขาจึงไปถอนเงินที่ธนาคาร แต่ต้องตกใจเมื่อทางธนาคารแจ้งว่า สมุดบัญชีเล่มนี้เป็นของปลอม ซึ่งตามกฎของธนาคารจะต้องมีการยึดสมุดบัญชีเล่มนี้ไว้และทำลายทิ้ง ทว่าชายหนุ่มไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น และตัดสินใจเรียกตำรวจมาทันทีเพื่อให้ทำการสอบสวน
ทางตำรวจร้องขอให้ทางธนาคารตรวจสอบข้อมูลของแม่ของชายคนนี้ทั้งหมด ตอนนั้นเองจึงปรากฏข้อมูลว่า แม่ของเขาเคยนำเงินมาฝากไว้ที่ธนาคารจริงๆ แต่กลับมีการถอนเงินทั้งหมดออกไปในเวลาไม่กี่วันต่อมา คำถามคือ...ใครเป็นคนถอนเงินดังกล่าว และเงินก้อนนั้นไปอยู่ที่ไหนแล้ว
แต่โชคยังดีที่ทางตำรวจสามารถติดตามตัวพนักงานธนาคารที่ทำธุรกรรมในครั้งนั้นได้ พบว่าพนักงานรายนี้ลาออกไปนานหลายปีแล้ว แต่เมื่อทางตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวน อดีตพนักงานรายนี้ยังปากแข็ง ยืนกรานไม่เคยทำธุรกรรมใดๆ กับเงินของชายผู้เสียหายเลย
และในที่สุดอดีตพนักงานรายนี้จึงยอมรับว่าได้ฉกฉวยประโยชน์จากความไว้ใจของชายหนุ่ม ทำสมุดบัญชีปลอมให้แก่อีกฝ่าย ขณะที่ตัวเองได้แอบโอนเงินทั้งหมดมาเข้าบัญชีของตัวเองเพื่อนำไปใช้ส่วนตัว ซึ่งอดีตพนักงานยอมรับว่า ตอนนั้นตนตั้งใจไว้ว่าจะแค่ "ขอยืมเงินชั่วคราว" เพื่อนำเงินไปลงทุน แต่การลงทุนนั้นล้มเหลว จึงไม่มีเงินมาจ่ายคืน
อย่างไรก็ตาม เมื่อความจริงปรากฏ ท้ายที่สุดทางธนาคารก็จำต้องยอมรับผิดชอบคืนเงินจำนวน 6 ล้านหยวน ให้แก่ชายหนุ่ม ส่วนอดีตพนักงานธนาคารที่ก่อเหตุ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลจาก SAOstar