เสี่ยวัย 59 ปี หลงรักสาววัย 23 ปี ถูกหลอกเงินค่าสินสอดเกลี้ยง 5 แสน
เสี่ยเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา วัย 59 ปี หลงรักสาว วัย 23 ปี ถูกหลอกเงินค่าสินสอดค่าเสียผี สุดท้ายไม่ได้แต่งงาน สูญเงิน 5 แสน
มีรายงานว่า นายเอก (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ร้องขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด หลังถูกหญิงสาวที่เจอกันทางแอปหาคู่ในเฟซบุ๊กหลอกให้รัก หลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือ หลอกให้โอนเงินให้เป็นค่าสินสอดล่วงหน้า และอ้างว่าจะแต่งงานด้วย แต่พอได้เงินแล้วก็ไม่ยอมแต่งงานด้วย พอทวงเงินคืนก็บอกไม่ให้คืน
ทางด้าน ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 ผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อฝน เข้ามากดไลก์รูปตนในแอปหาคู่ในเฟซบุ๊กหลายรูป และได้ส่งข้อความมาบอกชอบตน ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. 67 ได้นัดเจอกันกับนางสาวฝน อายุ 23 ปี จากนั้นได้พูดคุยจนสนิทกัน น้องฝนบอกว่าแนะนำตัวว่าเป็นนักเรียนพยาบาลแห่งหนึ่ง อยู่ชั้นปีที่ 3
ตนกับน้องฝนจึงได้คบหาเป็นแฟนกัน และน้องฝนได้มาหาที่บ้านตนประจำ และตนได้พาน้องฝนไปเที่ยวต่างจังหวัดอยู่บ่อยครั้ง แถมยังซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้ ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 น้องฝนได้ชวนตนเองไปที่บ้านของเขาที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อไปหาญาติของเขา พอเจอญาติเขาทางญาติได้ถามตนว่า มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน้องฝนหรือยัง ตนตอบไปว่ามีแล้ว ทางญาติเขาจึงบังคับให้ตนแต่งงานกับน้องฝน เพราะน้องฝนเสียผีไปแล้ว จึงได้มีการตกลงที่จะแต่งงานกันในวันที่ 14 กรกฎาคม 2567
โดยขอสินสอดเป็นเงิน 500,000 บาท แต่ขอให้ตนโอนเงินจำนวน 372,000 ให้ก่อน อ้างว่าเพื่อชำระหนี้ทุนเรียนพยาบาล แล้วส่วนที่เหลือ 128,000 บาท ค่อยเอามาให้ในวันแต่งงาน ตนจึงยอมตกลง และได้โอนเงินไปเข้าบัญชีโรงเรียนพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งไป จากนั้นตนกับแฟนได้กลับมาใช้ชีวิตคู่กันอยู่ที่กรุงเทพ โดยมาอยู่ที่บ้านตน ตนจึงพาไปเช่าชุดงานแต่งงาน
ต่อมาตนได้ไปพบพฤติกรรมของน้องฝน ที่ชอบใส่ชุดโป๊ และชอบคุยกับผู้ชายคนอื่น ตนจึงเอาเรื่องนี้ไปคุยกับญาติเขา ทำให้น้องฝนไม่พอใจเรา ต่อมาวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ฝ่ายหญิงได้แจ้งว่าไม่สามารถแต่งงานกับตนได้แล้ว และได้บอกเลิกตน แต่ได้พยายามยื้อเธอไว้ แต่เธอยืนยันว่าจะเลิก
ตนจึงเชื่อได้ว่าฝ่ายหญิงน่าจะว่างแผนมาหลอกตน เพื่อต้องการเงิน เพราะตลอดเวลาที่คบกันตนเป็นฝ่ายดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตนจึงขอเงินค่าสินสอดที่ฝ่ายหญิงให้โอนให้ก่อน 372,000 บาทคืน แต่ฝ่ายหญิงไม่ให้คืน พร้อมบอกว่า
“ตนโอนไปให้ใคร ก็ไปเอาคืนกับหน่วยงานนั้นเองสิ” ตนจึงเดินทางไปยัง สถาบันการพยาบาลที่ฝ่ายหญิงเรียนอยู่ ขอเงินก้อนนี้คืน แต่ทางสถาบันกลับไม่คืนให้ โดยบอกให้ไปพูดคุยกับฝ่ายหญิง
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ตนได้เดินทางไปแจ้งความที่สน. ทุ่งครุ เอาผิดกลับฝ่ายหญิงในข้อหาฉ้อโกง แต่คดีกลับไม่คืบ ตนจึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง