ตร.ล่าตัว "หมอบุญ" เร่งออกหมายแดง หลังบินหนีกบดานจีน
เร่งทำหมายแดง และ ประสานตำรวจสากล ล่าตัว "หมอบุญ" ลวงผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการใหญ่ สูญเงินรวมกว่า 7,500 ล้านบาท
วันที่ 25 พ.ย.67 คืบหน้าล่าสุดคดี"หมอบุญ" ล่าสึชุดตำรวจเร่งทำหมายแดง ส่งตำรวจสากลประสานทางการจีน ช่วยสืบสวนจับกุม "หมอบุญ" พร้อมสืบสวนขยายผล ยันพยานหลักฐานไปถึงใคร ต้องดำเนินคดีไม่เว้น ยังไม่ปักใจเชื่อภรรยา-ลูก อ้างถูกปลอมแปลงลายเซนต์ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และพฤติการณ์ว่า สอดคล้องกับช่วงเวลาที่หมอบุญเริ่มฉ้อโกงหรือไม่ วันนี้ (25 พ.ย.67) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวถึงการติดตาม นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
จากกรณีหลอกลวงผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการใหญ่ สูญเงินรวมกว่า 7,500 ล้านบาท ว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าหมอบุญ เดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังประเทศจีน ตั้งแต่เดือนกันยายนนั้น จะต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจนก่อน แต่เชื่อว่ามีการเตรียมการล่วงหน้า
โดยระหว่างนี้ กองการต่างประเทศอยู่ระหว่างจัดทำหมายแดง และ ประสานตำรวจสากล เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งหากประเทศใดมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยในส่วนของประเทศจีนนั้น มีสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันอยู่ อีกทั้งที่ผ่านมา ระหว่างสองประเทศ มีความร่วมมือด้านต่างๆ ร่วมกันเป็นอย่างดี
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบหลักฐานพาดพิงถึงใคร ก็จะออกหมายจับเพิ่ม ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหมอบุญ อายุมากแล้ว จะเอาเงินจำนวนมากไปทำอะไร ซึ่งอาจจะมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมนั้น ย้ำว่าหากตำรวจพบใครเกี่ยวข้อง ก็จะออกหมายจับเพิ่มแน่นอน
สำหรับ ภรรยาหมอบุญ ซึ่งอ้างว่า ถูกปลอมแปลงเอกสารลายมือชื่อ ก่อนมีการฉ้อโกงประชาชนนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งช่วงเวลาหย่าร้าง การประกาศโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การเซ็นสัญญาการกู้ยืมเงิน การลงลายมือเป็นพยาน รวมถึงเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ผู้เสียหายโอนเงิน ทั้งเงินสด เช็ค และมีการโอนออกไปให้ใคร ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ตรวจสอบคดีตั้งแต่ปี 2566 ที่มีการแจ้งความคดีเกี่ยวกับเช็ค ว่าเหตุใดถึงล่าช้า แต่เมื่อถึงช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2567 เป็นต้นมา กลับพบว่าเริ่มมีผู้เสียหายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนเชื่อว่าไม่ใช่เพียงคดีเช็คหรือกู้ยืมเงิน อีกทั้ง เมื่อตรวจสอบสิ่งก่อสร้างตาม 5 โครงการที่กล่าวอ้าง กลับไม่มีอยู่จริง จึงเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และการโฆษณาชวนเชื่อ ตนจึงเร่งรัดให้มีการออกหมายจับหมอบุญ และผู้เกี่ยวข้องรวม 9 ราย พร้อมเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งหากประชาชนรายใดได้รับความเดือดร้อน หรือ เป็นผู้เสียหาย ขอให้รีบมาแจ้งความทันที