หนุ่มสุดช้ำ เซียนพระชื่อดัง ตีเช็คเด้ง 40 ล้าน เหยื่อหลงกลรวมกว่า 300 ล้าน
หนุ่มสุดช้ำ ร้องทุกข์ถูกเซียนพระชื่อดัง เบี้ยวค่าพระเครื่อง หลังตีเช็คเด้งกว่า 40 ล้านบาท ผู้เสียหายเพียบ เหยื่อหลงกลรวมกว่า 300 ล้าน
วันที่ 25 พ.ย.67 หนุ่มสุดช้ำ ร้องทุกข์ โดนเซียนพระชื่อดัง เบี้ยวเงิน ตีเช็คเด้งกว่า 40 ล้าน โดยที่ ศูนย์ประสานงานสายไหมต้องรอด นายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า วันนี้มีผู้เสียหายเป็นนักสะสมรายหนึ่งได้เอาพระเครื่องไปขายให้กับเซียนพระชื่อดัง จำนวนหลายล้านบาท โดยเซียนพระรายดังกล่าวสั่งจ่ายเป็นเช็คมาให้แต่พอไปขึ้นเงินแล้วเช็คเด้ง เป็นแบบนี้แล้ว 2ครั้ง จึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้เสียหาย เล่าว่า วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เอาพระเครื่องไปขายให้ กับเซียนพระดังคู่กรณี ย่านพุทธมณฑลสาย2 เพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อได้ เพราะคู่กรณีอ้างว่า ไม่มีคนมาขายของให้เลยตนเองจึงนำพระไปขายให้ เป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 3 หมื่นบาท หลังจากนั้นได้สั่งจ่ายเป็นเช็คให้ แต่พอไปขึ้นเงิน เช็คใบแรกเด้ง ซึ่งตอนนี้ยังมีเช็คที่เซียนพระดังคู่กรณีสั่งจ่าย และรอขึ้นเช็คกว่า 8 ล้านบาท รวมถึงมีผู้เสียหายที่ตนเองรู้จักโผล่เพิ่มอีกหลายคน รวมมูลค่าความเสียหาย(เฉพาะที่ตนเองรู้จัก) กว่า 40 ล้านบาท
พระที่ขายให้เป็นพระเก่าที่มีราคาในตลาดตามปกติ ตัวเองเคยไปที่บ้านของคู่กรณีก็พบว่ากำลังไลฟ์สดอยู่ ซึ่งจะไลฟ์ช่วงดึกประมาณ 4-5 ทุ่ม มีคนดูประมาณ 700-800 คน ตนเองรู้จักกับเสียงพระดังคู่กรณีได้ประมาณ 7 เดือน ช่วงแรก ๆ ที่ซื้อขายการ ก็จะเป็นการสั่งจ่ายแบบเช็ค แต่ก็ผ่านตามปกติ ของผู้อื่นก็ผ่านตามปกติ ไม่เคยมีปัญหาอะไร ที่ผ่านมาเคยทำธุรกรรมแบบนี้แต่ได้รับเงินจริงจึงเกิดความเชื่อมั่น
ปัญหาเป็นหนี้สะสม คู่กรณีจะซื้อพระจากคนแรกไป และสั่งจ่ายเป็นเช็คแบ่งเป็นงวด ๆ สามใบ หลังจากนั้นจะนำไปไลฟ์สดขายต่อ ขายขาดทุนบ้างและได้กำไรบ้าง พอมีเหยื่ออีกรายเข้ามาขายพระต่อ ก็จะตีเงินเป็นเช็คให้อีก ทำแบบเดียวกัน และนำเงินมาจ่ายให้กับคนก่อนหน้า พร้อมกับนำพระไปขายต่อ เวียนกันไปแบบนี้
ส่วนเช็คที่สั่งจ่ายให้ก็จะแบ่งชำระเป็นงวด ๆ ซึ่งเช็คที่สั่งจ่ายให้กับแต่ละคน ณ ปัจจุบัน รวมมูลค่าแล้ว เสียหายกว่า 300 ล้านบาท
ตนเป็นตัวแทนของผู้เสียหายส่วนหนึ่ง มาร้องเรียน เพราะอยากได้เงินคืน และอยากเตือนภัยว่าการซื้อขายด้วยเช็คไม่ปลอดภัย พร้อมกับให้ดำเนินคดีกับคู่กรณีอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ ระหว่างที่คู่กรณีสั่งจ่ายเช็คให้ ได้มีการมายืมเงินตัวเองแยกต่างหาก เป็นจำนวนเงินหนึ่งล้านบาท อ้างว่าจะทยอยจ่ายคืนให้วันละ 100,000 บาท แต่จนถึงปัจจุบัน ยังได้รับเงินจากคู่กรณีเพียง 110,000 บาทเท่านั้น ยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกที่มีมูลค่าความเสียหาย กับเสียงพระคู่กรณีรายดังกล่าว มูลค่าความเสียหายกว่า 2000 ล้านบาท ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล