ข่าว

heading-ข่าว

สารวัตรเจี๊ยบ เอาผิดให้ถึงที่สุด 7 จร.กลาง รุมตืบหนุ่มคาด่าน อ้างจับผิดตัว

05 ธ.ค. 2567 | 10:11 น.
สารวัตรเจี๊ยบ เอาผิดให้ถึงที่สุด 7 จร.กลาง รุมตืบหนุ่มคาด่าน อ้างจับผิดตัว

สารวัตรเจี๊ยบ และลูกสาว เตรียมเอาผิด จร.กลาง 7 นาย ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ รุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส อ้างตามจับผิดคัน รับไม่ได้เอาเรื่องถึงที่สุด

 จร.กลาง 7 นาย รุมตืบหนุ่มคาด่านสาหัส สุดท้ายอ้างตามจับผิดตัว  โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 ธ.ค.67 น้องสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ เดินทางมาร้องทุกข์ พงส.บก.ปปป.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังถูกตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร 7 นาย ทำร้ายร่างกายขณะตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์อยู่บนถนนประเสริฐมนูกิจ เมื่อคืนที่ (4 ธ.ค.67) ช่วงเวลา 02.14 น.

สารวัตรเจี๊ยบ เอาผิดให้ถึงที่สุด 7 จร.กลาง รุมตืบหนุ่มคาด่าน อ้างจับผิดตัว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยน้องสาวเปิดเผยว่า ขณะที่พี่ชายของตัวเองขับรถยนต์ เข้าตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามปกติและไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงขับออกจากด่านตรวจ ก่อนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยานยนต์ 3 คัน และรถกระบะ 1 คัน ตามมาประกบ พร้อมบังคับให้ลงจากรถโดยพยายามเข้าควบคุมตัว ซึ่งพี่ชายก็พยายามขัดขืนเนื่องจากตัวเองไม่ได้กระทำความผิด แต่ตำรวจกลับใช้กำลังเกินกว่าเหตุ เข้าควบคุมตัวจนได้รับบาดเจ็บ

 

โดยตำรวจอ้างว่าพี่ชายพยายามขับรถแหกด่าน แต่เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบจากกล้องบันทึกภาพบริเวณด่านตรวจ กลับพบว่าไม่ใช่รถของพี่ชายที่เป็นผู้กระทำความผิด และนำตัวพาส่งโรงพยาบาล ของเก่าขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวมองว่าการกระทำของตำรวจเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ จึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นตำรวจทั้ง 7 นายได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือกระทำตามที่ถูกกล่าวหาจริง 

ส่วนกรณีที่เดินทางเข้ามาร้องทุกข์กับตำรวจสอบสวนกลางให้ช่วยดำเนินคดี เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการดำเนินคดี และอยากเรียกร้องให้ตำรวจทั้ง 7 นายเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ออกจากราชการ 

สารวัตรเจี๊ยบ เอาผิดให้ถึงที่สุด 7 จร.กลาง รุมตืบหนุ่มคาด่าน อ้างจับผิดตัว

ต่อมา พ.ต.ท.ธนชัย เกิดศรี หรือสารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือ ปทส.(ป่าไม้) ได้เดินทาง เข้ามาสมทบกับบุตรสาว เพื่อหารือในข้อกฎหมาย เตรียม แจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม กับตำรวจทั้ง 7 นาย ตามมาตรา 157 เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้อาการของลูกชาย หมอยังคงเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24  ชั่วโมง หมอวันมีอาการเลือดคลั่งทางสมอง จึงต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นหมอประมาณการค่าใช้จ่าย 48 ชั่วโมงเกือบ 100,000 บาท 

 

สารวัตรเจี๊ยบ ยอมรับว่าหลังเห็นสภาพลูกชาย ตนรู้สึกรับไม่ได้ เพราะตนก็เป็นอดีตตำรวจจราจรสังกัด ตำรวจจราจรกลาง มากกว่า 10 ปี ก่อนย้ายมาประจำ บก.ปทส หรือตำรวจป่าไม้ ตนไม่เคยกระทำการกับใครในลักษณะนี้มาก่อน ที่สำคัญการจับกุมมีขั้นตอนมีระเบียบระบุไว้ชัดเจนว่าต้องปฏิบัติอย่างไรแต่ทำไมเหตุการณ์นี้ตำรวจทั้ง 7 นายไม่ปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว ดังนั้นต้องดำเนินการทางกฎหมายเอาผิดให้ถึงที่สุด 

 
      
สารวัตรเจี๊ยบ ยังระบุอีกว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เหตุการณ์แบบนี้มันควรจะเกิดตอนที่ตนเองรับราชการใหม่ๆสมัยหนุ่มๆคือย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ไม่ใช่มาเกิดในยุคปัจจุบันในยุคที่สังคมมันเปลี่ยนไปในยุคที่เทคโนโลยี และ Social Media กำลังแบ่งบาน
     
ที่สำคัญ ปัจจุบันการทำงานของตำรวจมีระเบียบ ก.ตร ควบคุม มีขั้นตอนการปฏิบัติ  มีพรบ.อุ้มหาย ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม แต่ เหตุการณ์นี้ไม่มี  หากปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับดังกล่าว อาการแบบนี้ก็ไม่น่าจะเกิดจากที่สำคัญกฎระเบียบ ขั้นตอนเหล่านั้นก็จะช่วยปกป้องตัวตำรวจเอง
       
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากฝากอะไรถึงตำรวจทั้ง 7 นายรวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ทางสารวัตรเจี๊ยบระบุว่าตนคงไม่ฝากอะไรเพราะที่ผ่านมาทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการทำงานของตำรวจมีกฎ มีระเบียบที่ต้องปฏิบัติ เมื่อไม่ปฏิบัติก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตามมา ตนรักอาชีพนี้ หากไม่รักคงไม่อยู่มาจนถึงเกษียณอายุราชการ แต่ตลอดระยะเวลา 30 ปีไม่เคยกระทำ ต่อผู้ต้องหาหรือประชาชนแบบนี้มาก่อน หากต้องฝากคงบอกว่า อย่าลืม ปฏิบัติตามกฎตามระเบียบตามข้อบังคับตามขั้นตอน ซึ่งทุกคนก็รู้อยู่ดี และการ กระทำในลักษณะนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน

สารวัตรเจี๊ยบ เอาผิดให้ถึงที่สุด 7 จร.กลาง รุมตืบหนุ่มคาด่าน อ้างจับผิดตัว


      
ส่วนตัวไม่ใช่คนอาฆาตพยาบาทใคร ให้อภัย แต่เรื่องของกฎหมายก็ว่ากันไปตามนั้น วันนี้ มีโทรศัพท์ติดต่อมาหลายสายมาก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ของใครบ้างเพราะตนไม่อยากรับโทรศัพท์ของใครทั้งสิ้น ตอนนี้โฟกัสแค่ให้ลูกหายดี อยู่กับลูก ให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.)เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นายหยุดปฏิบัติหน้าที่จากหน้าที่เดิม ให้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการจราจรแทน เพื่อรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้นยอมรับว่าทางตำรวจทั้ง 7 นาย ได้ติดตามควบคุมตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันหนึ่งที่พยายามขับฝ่าด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ในจุดดังกล่าว จึงติดตามเพื่อสกัดจับ ก่อนพบรถยนต์ที่มีลักษณะคล้ายกันตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว แต่ผู้ขับขี่มีท่าทีขัดขืน ทำให้ตำรวจใช้กำลังเข้าควบคุมตัว ก่อนมาทราบภายหลังว่าเข้าจับผิดคัน ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล พร้อมขอโทษ แต่ทางญาติผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ขอยอมความ จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ส่วนการใช้กำลังเข้าควบคุมตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ญาติประสงค์จะดำเนินคดีเป็นสิทธิ์ของผู้เสียหาย ว่าไปตามกฎหมาย

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับเพิ่ม คนไทยในปอยเปต เอี่ยวพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับเพิ่ม คนไทยในปอยเปต เอี่ยวพนันออนไลน์

แม่บ้านสุดทน แฉเพื่อนรักทำคุณไสยใส่ กล่าวหาว่าแย่งสามี

แม่บ้านสุดทน แฉเพื่อนรักทำคุณไสยใส่ กล่าวหาว่าแย่งสามี

คุณเสี่ยง ภูมิแพ้ไรฝุ่น หรือไม่? รู้ไว้ ป้องกันได้ทัน.

คุณเสี่ยง ภูมิแพ้ไรฝุ่น หรือไม่? รู้ไว้ ป้องกันได้ทัน.

เปิดภาพหาดูยาก จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ ใกล้สูญพันธุ์

เปิดภาพหาดูยาก จระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ ใกล้สูญพันธุ์

สีเสื้อต้องเลี่ยง 17 มีนาคม 2568 วันจันทร์ไม่ควรใส่สีอะไร

สีเสื้อต้องเลี่ยง 17 มีนาคม 2568 วันจันทร์ไม่ควรใส่สีอะไร