สามีช็อก เผยคำพูดสุดท้ายไรเดอร์สาว ก่อนผู้บริหารคลินิกดัง ซิ่งเบนซ์พุ่งชน
สามีเผยคำพูดสุดท้ายไรเดอร์สาว ก่อนถูกผู้บริหารคลินิกเสริมความงาม ซิ่งเบนซ์ชนตกสะพานไทย-ญี่ปุ่น เสียชีวิต ช็อกมาก เนื่องจากภรรยาเป็นเสาหลักของครอบครัว
วันที่ 5 ธ.ค. 2567 จากเหตุสลด ผู้บริหารคลินิกซิ่งเบนซ์ชนไรเดอร์ตกสะพานเสียชีวิต เมื่อช่วงเวลา 03.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์กระเด็นตกจากสะพานเสียชีวิต เหตุเกิดบนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ข้ามแยกอังรีดูนังต์ ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กทม. ในที่เกิดเหตุบนสะพาน พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีราโน่ สีเทาดำ ท้ายรถด้านขวาถูกชนพังยับ ตำรวจวัดเป่าแอลกอฮอล์ นายปุณณมี อายุ 44 ปี คนขับรถเบนซ์ พบว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 119 มิลลิกรัม เบื้องต้นผู้บริหารคลินิกดังถูกแจ้งข้อหาขับขี่รถขณะมึนเมา , ขับรถประมาทเฉี่ยวชนรถผู้อื่นทำให้เสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหาย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุด วันที่ 5 ธ.ค. 2567 ที่ สน.ปทุมวัน นายเทวราช อายุ 30 ปี สามีของไรเดอร์สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า
ตนคบหากับภรรยามาประมาณ 4-5 ปี ภรรยามีลูกติด 3 คน คนโตอายุ 26 ปี คนกลางอายุ 23 ปี และคนเล็ก 14 ปี โดยตนกับภรรยาและลูกๆ อาศัยอยู่ที่จ.ชลบุรี เพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพ โดยตนทำอาชีพขับไรเดอร์ส่งอาหาร
ส่วนภรรยารับสินค้าจากตลาดโบ๊เบ๊ สำเพ็ง เยาวราช กรุงเทพมหานครฯ เพื่อนำมาขายที่ริมหาดบางแสน อ่างศิลา และตลาดชลบุรี ซึ่งภรรยาจะขี่รถจักรยานยนต์จากจ.ชลบุรีไปที่กทม. ด้วยตัวเขาเอง อาทิตย์ละครั้งแบบนี้เป็นประจำ เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 23.30 น. ภรรยาของตนหยิบเสื้อไลน์แมนของตนมาสวม ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจาก บ้านเพื่อไปยังกทม.เหมือนเช่นทุกที
- จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.06 น. ภรรยาโทรมาถามว่า ลูกคนเล็กกลับบ้านหรือยัง ตนบอกว่ากลับแล้ว แล้วก็ไม่ได้คุยอะไรต่อ เพราะภรรยากำลังขี่รถอยู่
กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. มีสายโทรศัพท์จากกู้ภัยโทรเข้ามาหาตน บอกว่าให้ตนทำใจดีดี ภรรยาถูกรถเก๋งชนตกสะพานเสียชีวิต คู่กรณีคือเจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดัง มีผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูง เมาแล้วขับ ตนได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน ในรุ่งเช้า แต่ยังไม่พบคู่กรณีแต่อย่างใด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนช็อกเป็นอย่างมาก เนื่องจากภรรยาเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องทำงานส่งเงินให้พ่อที่จังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนแม่เสียชีวิตไปแล้ว และเลี้ยงดูลูกลูกด้วย ยอมรับว่าตนกังวลกับเรื่องที่คู่กรณีเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดัง กลัวคดีจะเงียบไม่คืบหน้า เพราะตอนนี้ได้ยินจากกู้ภัยมาว่าคู่กรณีวางหลักทรัพย์ 2 แสนบาท ประกันตัวออกไปแล้ว อยากให้คู่กรณีถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด