หมอกฤตไท สร้างประโยชน์ต่อสังคม แม้จากไปแล้ว
"หมอกฤตไท" ต้นแบบแห่งการให้ การกระทำของหมอกฤตไท เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การให้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และการเสียสละเพื่อผู้อื่นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม สร้างประโยชน์ต่อสังคม แม้จากไปแล้ว
"หมอกฤตไท" สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งประเทศ การจากไปของหมอกฤตไท ไม่เพียงแต่สร้างความเสียใจให้กับคนใกล้ชิดเท่านั้น แต่ยังเป็นการจุดประกายให้คนทั้งประเทศหันมาตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะและร่างกาย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล หรือ "หมอกฤตไท" เจ้าของเพจ "สู้ดิวะ" อาจารย์แพทย์ มช. ในฐานะผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม ที่ฝุ่นอาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุของการสูญเสีย ทำให้เกิดตื่นตัวการจัดการฝุ่นสำหรับคนในภาคเหนือ รวมไปถึงแนวคิดในการใช้ชีวิตเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป
ล่าสุดสังคมออนไลน์ ร่วมส่งกำลังใจให้กับครอบครัว "หมอกฤตไท" หลังเจ้าของเฟซบุ๊ก Attavit Panyapinyophol ได้เผยแพร่ภาพร่างอาจารย์ใหญ่ หมอกฤตไท พร้อมข้อความว่า ตอนยังแข็งแรงก็เป็นหมอช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกขเวทนา เป็นครูบาอาจารย์สั่งสอนนักศึกษาแพทย์ ตอนไม่สบายก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมาย ตอนหลับไปแล้วร่างก็ยังเป็นอาจารย์ให้คุณหมอได้เรียนกัน คุณหมอจากไปแล้ว แต่ความดียังประจักษ์ คนยังระลึกถึงเสมอ ๆ
ทั้งนี้ในเวลาต่อมา ได้มีหลายคนต่างเข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญ กับการบริจาคร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ของหมอกฤตไท และได้ส่งกำลังใจให้กับครอบครัว ของคุณหมอจำนวนมาก
สำหรับหมอกฤตไท กำลังมีอนาคตที่สดใส แต่ต้องเจอกับมรสุมชีวิตด้วยการป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย จนนำไปสู่การเปิดเพจเฟซบุ๊ก "สู้ดิวะ" เพื่อแชร์ประสบการณ์ของการป่วยของตัวเอง
นอกจากนี้ หมอกฤตไท ตั้งคำถามผ่านเพจ สู้ดิวะ ถึงสถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 เป็นความรับผิดชอบของประชาชนจริงหรือไม่ ที่ต้องแบกรับค่าหน้ากาก ค่าเครื่องฟอก ประชาชนหลายอาชีพเองก็ไม่ได้สะดวกพอที่จะหลีกเลี่ยงฝุ่นอันตรายนี้ และไม่ได้มีเงินมากพอที่จะติดตั้งเครื่องมือ เพิ่มคุณภาพอากาศที่พวกเขาต้องหายใจเข้าไป ทุกวัน