ข่าว

heading-ข่าว

ไฟเขียว ลดภาษีเงินได้ 17% จูงใจคนไทยคืนถิ่น นายจ้างได้เฮ

26 ธ.ค. 2567 | 16:54 น.
ไฟเขียว ลดภาษีเงินได้ 17% จูงใจคนไทยคืนถิ่น นายจ้างได้เฮ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ครม. ไฟเขียวมาตรการภาษี หนุนคนไทยหัวกะทิ กลับเข้าทำงานในประเทศ พร้อมลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการหักภาษี ณ ที่จ่าย และคงจัดเก็บในอัตรา 17% ด้านนายจ้างหักรายจ่ายเงินเดือนได้ 1.5 เท่า

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สืบเนื่องจาก ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานอยู่ต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อเป็นการดึงดูดคนที่มีศักยภาพสูงและมีความเชี่ยวชาญในสาขาความต้องการของอุตสาหกรรมให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศ 

 

ไฟเขียว ลดภาษีเงินได้ 17% จูงใจคนไทยคืนถิ่น นายจ้างได้เฮ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟเขียว ลดภาษีเงินได้ 17% จูงใจคนไทยคืนถิ่น นายจ้างได้เฮ รวมทั้งตอบสนองความต้องการทรัพยากรบุคคลและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี ดังนี้

 

กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ลูกจ้าง)

1.ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการหักภาษี ณ ที่จ่าย และคงจัดเก็บในอัตรา 17% ของเงินได้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

ในกรณีที่คำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50

(1) แห่งประมวลรัษฎากรแล้วอยู่ในบังคับต้องเสียน้อยกว่า 17% ของเงินได้ ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธิได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เมื่อผู้มีเงินได้ยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 17% ของเงินได้นั้น

2.ให้ผู้มีเงินได้ซึ่งถูกหักภาษีได้ ณ ที่จ่ายในอัตรา 17% ของเงินได้ไว้แล้ว เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมิน ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินได้พึงประเมินนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ เฉพาะกรณีไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้คืนหรือไม่ขอเครดิตคืนภาษีที่ถูกหักไว้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

ในกรณีที่เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากรไว้แล้วด้วยและมีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้บุคคลสำหรับเงินได้พึงประเมินดังกล่าวตามมาตรา 48 (3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้จะใช้สิทธิได้ เมื่อไม่นำเงินพึงได้ประเมินตามมาตรา 40 (4) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากรนั้นไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้คืนและไม่ขอเครดิตภาษีที่ถูกหักไว้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

ทั้งนี้ ในการได้รับยกเว้นเงินได้ข้างต้น ผู้มีเงินได้ต้องยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย

 

กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล (นายจ้าง)

ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายหักรายจ่ายเงินเดือนตามสัญญาจ้างแรงงานของลูกจ้างได้ 1.5 เท่า (ปกติหักได้ 1 เท่า) ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

เงินได้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ข้างต้นต้องไม่เป็นเงินได้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายอื่นหรือตามพระราชกฤษฎีกาอื่นที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร

หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข

บุคคลธรรมดา (ลูกจ้าง) จะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

1. มีสัญชาติไทย

2. วุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี

3. มีประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 2 ปี

4. เป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยเพื่อทำงานให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นได้แจ้งการจ้างลูกจ้างดังกล่าวตามแบบที่อธิบดีกำหนดต่อกรมสรรพากรก่อนจ่ายเงินให้ได้แก่ลูกจ้างครั้งแรกของการจ้างแรงงาน โดยผู้มีเงินได้ดังกล่าวจะได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่กรมสรรพากรได้รับแจ้งจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น

5. ไม่เคยทำงานในประเทศไทยในปีภาษีที่มีการเริ่มใช้สิทธิประโยชน์ และไม่ได้เข้ามาอยู่ในประเทศก่อนปีภาษีที่ใช้สิทธินั้นอย่างน้อย 2 ปี

6. ในปีภาษีที่ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ จะต้องอยู่ในประเทศชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะเวลารวมเวลาทั้งหมดไม่น้อยกว่า 180 วันในปีภาษีที่ใช้สิทธินั้น เว้นแต่ปีภาษีแรกและปีภาษีสุดท้ายที่ใช้สิทธิ จะอยู่ในประเทศไทยน้อยกว่า 180 วันก็ได้

7. มีคุณสมบัติและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นตามอธิบดีประกาศกำหนด

 

ระยะเวลาดำเนินการ

วันที่มาตรการมีผลใช้บังคับ : วันถัดจากวันที่กฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา

วันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดในการเดินทางกลับเข้าประเทศของผู้เข้าร่วมมาตรการ : ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

ระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมมาตรการ : ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572

ข่าวเด่น

"ผัวอี๊ด สบู่สับปะรด" เดือดซัดแรง "ซ้อฝัน" ปมพูดถึงภรรยาหลังเสียชีวิต

"ผัวอี๊ด สบู่สับปะรด" เดือดซัดแรง "ซ้อฝัน" ปมพูดถึงภรรยาหลังเสียชีวิต

จีนหลอกจีน "ซิงซิง"พูดแล้วเกิดอะไรขึ้น โดนโกนหัว ถูกให้ฝึกพิมพ์ดีด

จีนหลอกจีน "ซิงซิง"พูดแล้วเกิดอะไรขึ้น โดนโกนหัว ถูกให้ฝึกพิมพ์ดีด

ราชกิจจาฯ ประกาศแต่งตั้งข้าราชการการเมือง 16 ราย

ราชกิจจาฯ ประกาศแต่งตั้งข้าราชการการเมือง 16 ราย

เผยอาการล่าสุด สาวดื่มชาเย็นแทนน้ำทุกวัน จนเป็นนิ่วก้อนใหญ่ต้องผ่าตัด

เผยอาการล่าสุด สาวดื่มชาเย็นแทนน้ำทุกวัน จนเป็นนิ่วก้อนใหญ่ต้องผ่าตัด

แผ่นดินไหวทิเบต ขนาด 6.8 ยอดดับพุ่ง 95 ราย

แผ่นดินไหวทิเบต ขนาด 6.8 ยอดดับพุ่ง 95 ราย

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด