สุดเศร้า ลูกสาวไรเดอร์ ลั่นไม่ให้อภัย พ่อคือโลกทั้งใบของหนู
สุดเศร้า ลูกสาวไรเดอร์ ลั่นไม่ให้อภัย พ่อคือโลกทั้งใบของหนู ด้านภรรยาไม่ขออโหสิกรรมให้ คนมีเงินมันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ นายเสรี อายุ 30 ปี หนุ่มเชื้อสายอินเดีย ลูกชายเจ้าของร้านขายผ้าแห่งหนึ่ง ขับรถเก๋งไล่ชน นายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 49 ปี คนขับไรเดอร์เสียชีวิต บริเวณริมทางเท้า ซ.สุขุมวิท 10 ถ.สุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ หลังจากก่อนหน้านี้นายเสรีได้ขับรถเฉี่ยวชนนายฤทธิศักดิ์ แต่ไม่ยอมลงมาเจรจา นายฤทธิศักดิ์จึงขับรถไล่ตาม
แต่กลับถูกนายเสรีทำร้ายร่างกาย จนนายฤทธิศักดิ์ต้องยกมือไหว้ และพยายามที่จะขี่รถหนี แต่นายเสรีแค้นใจ ขับรถไล่ตามต่อ ก่อนพุ่งชนจนนายฤทธิศักดิ์เสียชีวิต
โดยในวันที่ 22 ม.ค. 68 นางสายใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เดินทางมาติดต่อกับศาลก่อนจะเดินทางมาที่โรงพยาบาลจุฬาเพื่อติดต่อขอรับศพช่วงบ่าย ขณะที่บรรยากาศที่อาคารนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นไปด้วยความโศกเศร้าครอบครัวรวมถึงเพื่อนไรเดอร์ ก็ได้ไปติดต่อรับศพนายฤทธิศักดิ์เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดคลองเตยใน
ขณะที่ทางด้าน น้องพั้นช์ อายุ 19 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า อยากให้พ่อของตนได้รับความเป็นธรรมมากที่สุดซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางนั้นตนก็อยากฝากขอโทษพ่อที่เคยทำไม่ดีไว้ที่เคยไม่เชื่อฟัง อยากให้พ่ออโหสิกรรมให้ตน น้าต้นจะดูแลน้องและพี่สาวและแม่ให้แทนพ่อ ให้พ่อพักผ่อนให้สบาย
ต่อมา ผู้สื่อข่าว รับรายงานว่านายเสรีผู้ต้องหาขับรถชนไรเดอร์ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ผู้สื่อข่าวจึงได้พูดคุยกับนางสาวสายใจ ตาบุญ อายุ 39 ปีชนภรรยาของไรเดอร์ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ทั้งนี้ตนก็รู้สึกกังวลใจที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อสามีการตัดสินให้ประกัน ทั้งนี้ ตนก็ยังเชื่อมั่นว่ามีผู้สื่อข่าวติดตามและประชาชนสนใจเยอะขนาดนี้เชื่อว่าตนจะได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า ตนและลูกจะทวงความยุติธรรมให้ถึงที่สุด
ด้าน นางสาวสายใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยภายหลังทราบข่าวศาลฯ อนุญาตให้ประกันตัวนายเสรี ผู้ก่อเหตุ ว่า
"ถ้าเป็นที่ศาลพิจารณาออกมาแล้ว เราก็แย้งอะไรไม่ได้ ขนาดเรายื่นค้านประกันไปแล้ว เราจะไปสู้อะไรได้ ยอมรับว่าตัวเองมีความกังวลใจแน่นอน เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนมีเงินมันยิ่งใหญ่ อยู่แล้ว"
เธอก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวว่าคดีมันจะเปลี่ยนไปหมด เขาได้ประกันตัวออกมาแล้ว คงเดินลอยหน้าลอยตาแล้วป่านนี้ ยืนยันว่า เธอจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะไม่มีทนาย ไม่มีเงิน ต้องดิ้นรน แต่เชื่อว่าถ้ามีสื่อช่วยนำเสนอข่าว ก็จะได้รับความยุติธรรม โดยเขาเองมีทุกอย่างที่จะสู้ แต่ถ้ามองเรื่องของความเป็นมนุษย์ เขาทำผิดแล้วสำนึกผิด จะมารดน้ำศพ เราก็จะปล่อยให้เขาเข้ามาได้ แต่ในใจเธอไม่ขออโหสิกรรมให้