ข่าว

heading-ข่าว

"อดีตดาราดัง" เข้าแจ้งความเอาผิด หนุ่ม กรรชัย และ ทนายแก้ว แล้ว

04 ก.พ. 2568 | 15:56 น.
"อดีตดาราดัง" เข้าแจ้งความเอาผิด หนุ่ม กรรชัย และ ทนายแก้ว แล้ว

"ปู มัณฑนา" แจ้งความ "ทนายแก้ว" และ "หนุ่ม กรรชัย" ล่าสุดเจ้าตัวเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีกับทนายแก้ว หนุ่ม กรรชัย และบริษัท ดีคืนดีวัน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

"ปู มัณฑนา" ชี้แจงว่าเหตุผลที่เธอโพสต์เรื่องราวลงโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่เพราะต้องการเงินคืน แต่ต้องการเตือนสังคมและประชาชนให้ระมัดระวังการว่าจ้างทนายความ และทำสัญญาให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ล่าสุด ได้เข้าแจ้งความ หนุ่ม กรรชัย - ทนายแก้วแล้ว

"อดีตดาราดัง" เข้าแจ้งความเอาผิด หนุ่ม กรรชัย และ ทนายแก้ว แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 14.30 น. นางมัณฑนา หิมะทองคำ (ปู มัณฑนา) ผู้เสียหาย ได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อและแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท. เปรม ชำนาญดู รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ  พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี แก่

1.นาย มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว (ผู้ต้องหาที่ 1)

2.นาย ภูดิท กำเนิดพลอย หรือ หนุ่มกรรชัยพิธีกรชื่อดัง

(ผู้ต้องหาที่ 2 )

3. บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด (ผู้ต้องหาที่ 3 )

 

และกับพวกในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

 

เนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ใส่ความผู้เสียหาย ในขณะออกรายการโหนกระแสของผู้ต้องหาที่ 3 ที่ได้เผยแพร่ไปสู่สาธารณะชน และบุคคลที่ 3 รับฟังแล้วเป็นที่เข้าใจ ว่า ในการว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความของผู้เสียหาย ผู้เสียหายให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องไปโบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเป็นความเท็จ ( ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ไปตกลงว่าจ้างจำนวนหลายคนและผู้รู้ด้านกฎหมายจำนวนมากให้ความเห็นตรงกันว่าใครจะกล้าไปว่าจ้างให้ทนายความที่มีชื่อเสียงให้ไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ ) ในประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง

 

โดยมีผู้ต้องหาที่ 2 พูดส่งเสริมสนับสนุนและผู้ต้องหาที่ 3 และทางช่อง 3 ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ออกอากาศไปสู่สาธารณะชนโดยไม่ได้ตรวจสอบกลั่นกรองข้อเท็จจริงให้ถูกต้องก่อน ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียงถูกสังคมเข้าใจผิด ดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง

 

ผู้เสียหายได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงอย่างมากเพราะผู้เสียหายเคยประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูงเคยได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนและรองนางสาวไทย อันดับ2 จัดการประกวดโดยช่อง7สีร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หลังจากได้รับตำแหน่ง ได้มีโอกาสไปเดินแบบชุดไทยจักรีหน้าพระพักตร์ในหลวง พระราชีนี ในรัชกาลที่9 ซึ่งเป็นมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

 

จากนั้นมีผลงานเป็นนางเอกละครหลังข่าวทางสถานีย์โทรทัศน์สีองทัพบกช่อง 7 อย่างต่อเนื่อง และสามีเป็นถึงอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง อดีตพิธีกร และอดีตนักแสดงสังกัดดาราวิดีโอทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

 

ผู้เสียหายขอความเป็นธรรมต่อไปว่าเหตุในการเลิกสัญญาว่าจ้างทนายความต่อกันนั้น ไม่ใช่

 

ผู้เสียหาย ให้ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องไป โบ๊ะบ๊ะไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ อย่างนั้นอย่างนี้ แต่เป็นเพราะผู้ต้องหาที่ 1 ได้ทำหนังสือขอเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและอาจจะถือได้ว่าเป็นเอกสารเท็จ เพื่อจะนำไปยื่นต่อพนักงานสอบสวน และผู้เสียหายเห็นว่าหนังสือดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้เสียหายมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนหรือ อาจจะถูกออกหมายจับเพราะเหตุในการเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 นั้นไม่ตรงต่อความเป็นจริง

 

และความเป็นจริงผู้เสียหายมีอาการเครียดจนป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะถูกออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่ผู้เสียหาย ต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ป่วยที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นความเท็จ ตามที่ผู้ต้องหาที่ 1ได้จัดทำหนังสือให้ และเหตุในการเลิกสัญญาต่อกันอีกประการหนึ่งคือผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในหนังสือขอเลื่อนคดี ดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวนในฐานะเป็นผู้รับมอบอำนาจ แต่จะให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อ ผู้เสียหายก็ไม่กล้าลงลายมือชื่อเพราะว่าหนังสือดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นความเท็จ ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ผู้เสียหายเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ผู้เสียหายได้ว่าจ้างผู้ต้องหาที่ 1 ให้เป็นทนายความ เป็นเงินประมาณ 150,000 บาท

ผู้ต้องหาที่ 1 ก็ต้องควรที่จะปกป้อง

ผู้เสียหายตามกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุให้เลิกสัญญาต่อกันโดยสมัครใจ

ส่วนเหตุที่ผู้เสียหายต้องขอความเป็นธรรมต่อสังคมโดยการโพสต์ข้อความลงสื่อสาธารณะเพราะว่าส่วนหนึ่ง

ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาที่ 1 หักเงินจำนวน 50,000 บาท เป็นค่าทำหนังสือที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง

ดังกล่าว แต่เสียหายไม่ได้ต้องการที่จะขอเงินจำนวน 50,000 บาท ดังกล่าวนี้คืน เพียงแต่ต้องการเตือนสังคมและเตือนประชาชนว่าเวลาว่าจ้างทนายความนั้นควรที่จะต้องตกลงกันให้ชัดเจนในข้อตกลงต่างๆและต้องทำเป็นหนังสือสัญญา มิฉะนั้นแล้ว ก็อาจจะได้รับความเสียหายอย่างเช่นผู้เสียหาย ส่วนเรื่องที่มีการพูดยอมรับกันในขณะออกสื่อว่ามีการหักให้ค่านายหน้านั้น ผู้เสียหายมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการผิดมารยาททนายความ ข้อไหน หรือไม่อย่างไร ในส่วนนี้ผู้เสียหายไม่ทราบ เพราะเป็นส่วนของสภาทนายความที่จะต้องตรวจสอบและดำเนินการไปตามกฎหมาย

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

จากปาก"คนเป็นพ่อ"เผยสาเหตุทิ้งลูกแรกเกิด หน้าประตูวัดสมานรัตนาราม

จากปาก"คนเป็นพ่อ"เผยสาเหตุทิ้งลูกแรกเกิด หน้าประตูวัดสมานรัตนาราม

ลูกค้านำทองสีเงิน ร่อนจากแม่น้ำโขง หลอมเสร็จรู้มูลค่าที่ได้หายเหนื่อย

ลูกค้านำทองสีเงิน ร่อนจากแม่น้ำโขง หลอมเสร็จรู้มูลค่าที่ได้หายเหนื่อย

อย่าคิดว่าไม่เป็นเรื่อง ลูกจ้าง ลาออกไม่บอกล่วงหน้า เสีย 1.3ล้าน ให้นายจ้าง

อย่าคิดว่าไม่เป็นเรื่อง ลูกจ้าง ลาออกไม่บอกล่วงหน้า เสีย 1.3ล้าน ให้นายจ้าง

นาทีระทึก สะพานทางหลวงกรุงโซลความสูง 50 เมตร ถล่มระหว่างก่อสร้าง

นาทีระทึก สะพานทางหลวงกรุงโซลความสูง 50 เมตร ถล่มระหว่างก่อสร้าง

จับแล้ว พ่อ-แม่วัยรุ่นใจยักษ์ ขับกระบะขาว เอาลูกแรกเกิดมาทิ้งหน้าวัด

จับแล้ว พ่อ-แม่วัยรุ่นใจยักษ์ ขับกระบะขาว เอาลูกแรกเกิดมาทิ้งหน้าวัด