ข่าว

heading-ข่าว

เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

27 ก.พ. 2568 | 13:52 น.
เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ประกันสังคม VS บัตรทอง เปรียบเทียบให้แล้ว สิทธิประโยชน์ต่างกันอย่างไร รักษาอะไรฟรี หรือต้องจ่ายเอง วันนี้มีคำตอบค่ะ

เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ในปี พ.ศ. 2569 ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมจะต้องจ่ายเงินสมทบต่อเดือนเพิ่มขึ้น โดยสูงสุดอยู่ที่ 875 บาท ซึ่งการปรับเพิ่มเงินสมทบนี้มาพร้อมกับการขยายสิทธิประโยชน์ 6 ด้านให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการรักษาพยาบาลที่จะเทียบเท่ากับสิทธิบัตรทอง

เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงข้อมูลจาก theactive

 

จากข้อมูลพบว่า ข้อร้องเรียนของผู้ประกันตน กว่า 70% เป็นเรื่องการบริการทางการแพทย์ ส่วนเรื่องการบริการด้านอื่น ๆ เช่น การเบิกจ่าย กลับไม่มีปัญหามากนัก


มีกรณีที่ผู้ประกันตนหลายรายต้องรอคิวยาวนาน เช่น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารายหนึ่งที่ต้องรอคิวพบแพทย์ถึงปี 2569 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาด้านการจัดสรรทรัพยากรและบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอ


นอกจากนี้ ระบบการส่งต่อของประกันสังคมยังมีข้อจำกัดสูง ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถรับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ต้องการได้ ทำให้ต้องจ่ายเงินเองหากต้องการเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพมากขึ้น

 

เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

 

เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

 

1. การเข้ารับบริการ

  • ประกันสังคม ผู้ใช้สิทธิต้องเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่เลือกไว้เท่านั้น และสามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลได้เพียงปีละ 1 ครั้ง
  • บัตรทอง สามารถเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลในระบบบัตรทองได้ทุกแห่ง แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขปฐมภูมิ เช่น ต้องเริ่มต้นที่สถานพยาบาลใกล้บ้านก่อน

 

2. การส่งต่อผู้ป่วย

  • ประกันสังคม โดยส่วนใหญ่ระบบประกันสังคมไม่มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น
  • บัตรทอง สามารถใช้ใบส่งตัวเพื่อรับการรักษาในโรงพยาบาลที่สูงขึ้นตามระบบที่กำหนด

 

3. การรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน

  • ประกันสังคม ไม่สามารถรับยาได้จากร้านยาใกล้บ้าน ต้องรับจากโรงพยาบาลที่รักษาเท่านั้น
  • บัตรทอง สามารถรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านได้

 

4. ทันตกรรม

  • ประกันสังคม สามารถใช้สิทธิในการถอนฟัน อุดฟัน และขูดหินปูนได้ แต่มีวงเงินจำกัดที่ 900 บาทต่อปี
  • บัตรทอง ครอบคลุมบริการพื้นฐานเช่นเดียวกับประกันสังคม แต่ไม่มีการกำหนดวงเงินสูงสุด  ปีละ 3 ครั้ง

 

5. การคลอดบุตร

  • ประกันสังคม มีวงเงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตร 15,000 บาทต่อครั้ง (กำลังจะปรับเพิ่มเป็น 20,000 บาทต่อครั้ง) แต่ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรในโรงพยาบาลเอกชนอาจสูงถึง 30,000-50,000 บาทต่อครั้ง
  • บัตรทอง ไม่จำกัดค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร

 

6. การรักษามะเร็ง

  • ประกันสังคม สามารถเข้ารับการรักษามะเร็งได้เฉพาะที่โรงพยาบาลคู่สัญญาของประกันสังคมเท่านั้น
  • บัตรทอง ใช้แนวทาง “Cancer Anywhere” ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษามะเร็งได้ทุกที่ที่มีระบบบัตรทองรองรับ รวมถึงโรงเรียนแพทย์ 

 

7. การดูแลระยะสุดท้าย

  • ประกันสังคม ให้บริการเฉพาะโรงพยาบาลคู่สัญญาที่กำหนด
  • บัตรทอง สามารถรับบริการดูแลแบบประคับประคองในหน่วยบริการปฐมภูมิ-สหวิชาชีพในชุมชน
  • การเลือกใช้สิทธิระหว่าง ประกันสังคม และ บัตรทอง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล หากเป็นพนักงานบริษัทที่มีประกันสังคม อาจต้องใช้สิทธิในโรงพยาบาลที่เลือกไว้เท่านั้น ขณะที่ บัตรทองมีความยืดหยุ่นมากกว่า ในแง่ของการเข้ารับบริการ โดยเฉพาะการรักษามะเร็งและการคลอดบุตรที่ไม่จำกัดค่าใช้จ่าย

 

ส่วนค่ารักษาเกี่ยวกับฟัน

 

รักษารากฟัน

  • บัตรทอง : รักษารากฟันแท้ ใส่รากฟันเทียม ไม่เสียค่าใช้จ่าย  
  • ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง 

 

ศัลยศาสตร์ช่องปาก

  • บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  
  • ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

 

ตรวจฟัน

  • บัตรทอง : ตรวจวินิจฉัยโรค เอกซเรย์ฟัน รวมถึงการให้ยาก่อนและหลังการรักษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • ประกันสังคม : ตรวจฟันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากมีการเอกซเรย์ฟันหรือให้ยาก่อนและหลังการรักษาต้องจ่ายเงินเอง

 

เคลือบฟลูออไรด์

  • บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง 

 

ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด

  • บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  
  • ประกันสังคม : รักษาได้ในวงเงินไม่เกิน 900 บาท/ปี หากมีส่วนเกินจะต้องจ่ายเอง 

 

รักษาโรคเหงือก ปริทันต์

  • บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  
  • ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

 

การใส่ฟันเทียม ฟันปลอม

  • บัตรทอง : ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ประกันสังคม : 

  • ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน จำนวน 1-5 ซี่ เบิกได้ไม่เกิน 1,300 บาท
  • ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน จำนวนมากกว่า 5 ซี่ เบิกได้ไม่เกิน 1,500 บาท
  • ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
  • ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม

 

 

นอกจากนี้ผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายค่าใส่ฟันปลอมไปก่อน จากนั้นค่อยนำเอกสารและใบเสร็จรับเงินไปติดต่อเบิกได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ข้อมูลล่าสุด 27 ก.พ. 68 หากมีการอัปเดตเพิ่มเติมจะรีบแจ้งให้ทราบ

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

สมยศ ท้าชน มาดามแป้ง จี้สมาคมฯ ขอหลักฐานเงินเดือน 32 ล้านใน 7 วัน

สมยศ ท้าชน มาดามแป้ง จี้สมาคมฯ ขอหลักฐานเงินเดือน 32 ล้านใน 7 วัน

เผยสาเหตุ เมียหลวงวัย 56 เสียชีวิต หลังคืนดีผัววัย 45 ที่นอกใจ

เผยสาเหตุ เมียหลวงวัย 56 เสียชีวิต หลังคืนดีผัววัย 45 ที่นอกใจ

CP ALL EDUCATION FORUM 2025 สร้างคนเก่ง คนดี มีความสามารถ ผ่านการศึกษายุค AI

CP ALL EDUCATION FORUM 2025 สร้างคนเก่ง คนดี มีความสามารถ ผ่านการศึกษายุค AI

ดวงวันนี้ 15 มี.ค. 2568 การเงิน การงาน จะเป็นอย่างไร วันนี้มีคำตอบ

ดวงวันนี้ 15 มี.ค. 2568 การเงิน การงาน จะเป็นอย่างไร วันนี้มีคำตอบ

สาวพุ่งยื่น ถ่ายไม่ออก 3 วันติด สุดท้ายตรวจเจอ เนื้องอกเต็มท้อง

สาวพุ่งยื่น ถ่ายไม่ออก 3 วันติด สุดท้ายตรวจเจอ เนื้องอกเต็มท้อง