เช็กรายละเอียดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ล่าสุด

เช็ก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รายละเอียดล่าสุด จากข้อมูลที่ได้รับ กระทรวงการคลังได้แจ้งว่าการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งเดิมมีกำหนดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 นั้น จะถูกเลื่อนออกไปก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่กระทรวงการคลังกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์รายได้ เพื่อให้การช่วยเหลือจากภาครัฐมีความเหมาะสมและตรงเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

 

คืบหน้า ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568  ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อัปเดตถึงการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ เผยกระทรวงการคลัง ยังไม่สามารถกำหนดวันลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในเดือนมีนาคม 2568 นี้

 

 

สาเหตุเลื่อนลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

 

เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การชี้วัดความยากจน จากปัจจุบันใช้เกณฑ์รายได้ทั้งปีไม่เกิน 100,000 บาท หรือเฉลี่ยไม่เกินวันละ 274 บาท โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์นี้หรือไม่ เพื่อให้มีการช่วยเหลือมีความเหมาะสมและตรงเป้าหมายมากขึ้น

 

ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และการกำหนดการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ภายในเดือนมีนาคมนี้

 

อย่างไรก็ตามผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน งวดเดือนมีนาคม 2568 กรมบัญชีกลางยังโอนให้ต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการเปิดลงทะเบียนรอบใหม่

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมีนาคม 2568 จะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 มีนาคม 2568

• วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
• วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2568)
• วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ) *ถอนเป็นเงินสดไม่ได้และไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไป

ส่วนลดค่าไฟ-ค่าน้ำประปา สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กรมบัญชีกลาง โอนจ่ายตรงให้ผู้บริการ

• ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
• ส่วนลดค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

 

วันที่ 20 มีนาคม 2568

• เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน
• สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง