ข่าว

heading-ข่าว

เรียกคืนเครื่องราชฯ ตำรวจ 2 นาย ผิดวินัยร้ายแรงจนถูกจำคุก

09 เม.ย. 2568 | 15:01 น.
เรียกคืนเครื่องราชฯ ตำรวจ 2 นาย ผิดวินัยร้ายแรงจนถูกจำคุก

พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นายตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๒ ราย เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา 8 เมษายน 2568 เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ นายตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 ราย ถูกเพิกถอนเกียรติยศ หลังกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงมีความผิดอาญาและต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุกตามกฎหมาย

 

เรียกคืนเครื่องราชฯ ตำรวจ 2 นาย ผิดวินัยร้ายแรงจนถูกจำคุก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เรียกคืนเครื่องราชฯ ตำรวจ 2 นาย ผิดวินัยร้ายแรงจนถูกจำคุก

 

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้พระราชทานแก่ข้าราชการตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน ๒ ราย ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา เนื่องจากได้กระทำความผิดในขณะรับราชการและถูกลงโทษทางวินัย ตามข้อ ๖ และข้อ ๗ (๔) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ ดังนี้

๑. นายสมศักดิ์ แก้วทิม ขณะดำรงตำแหน่งนายดาบตำรวจ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๒ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ หรือเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ รวมทั้งการกระทำผิดตามมาตรา ๗๙ (๑) (๒) และ (๖) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗   

 

๒. นายรวิทย์ ฤกษ์แก้ว ขณะดำรงตำแหน่งนายดาบตำรวจ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ งานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ หรือเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย กระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ รวมทั้งการกระทำผิดตามมาตรา ๗๙ (๑) (๒) และ (๖) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗   

ทั้งนี้ บุคคลทั้ง ๒ ราย เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘   

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"น้ำยืน" เงียบร้าง หลังถูกประกาศเป็นโซนสีแดง  สั่งอพยพประชาชน

"น้ำยืน" เงียบร้าง หลังถูกประกาศเป็นโซนสีแดง สั่งอพยพประชาชน

บิ๊กป้อม ห่วงใยทหารไทยทุกนาย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

บิ๊กป้อม ห่วงใยทหารไทยทุกนาย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

อาลัย ทหารกล้าดับเพิ่มอีกนาย มทบ.25 ส่งร่าง 3 วีรบุรุษกลับบ้าน

อาลัย ทหารกล้าดับเพิ่มอีกนาย มทบ.25 ส่งร่าง 3 วีรบุรุษกลับบ้าน

สำรวจสภาพความเสียหาย อ.น้ำยืน หลังเหตุปะทะไทย–กัมพูชา

สำรวจสภาพความเสียหาย อ.น้ำยืน หลังเหตุปะทะไทย–กัมพูชา

"แพทองธาร" โต้ลั่น  "ชินวัตร" ไม่ใช่ต้นตอสู้รบไทย-กัมพูชา

"แพทองธาร" โต้ลั่น "ชินวัตร" ไม่ใช่ต้นตอสู้รบไทย-กัมพูชา