ชีวิตปัจจุบัน "ลุงเอี่ยม" ทั้งๆ ที่เคยบริจาคให้วัดไร่ขิงนับล้าน

พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ได้เดินทางเข้าพบตำรวจสอบสวนกลางเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังมีหลักฐานว่าท่านถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนกว่า 8 เดือน ส่งสายลับแฝงตัวในวัด และพบการโอนเงินจากบัญชีวัดเข้าสู่บัญชีส่วนตัวของท่าน ก่อนส่งต่อให้หญิงสาวที่เป็นนายหน้าของเว็บพนัน เพื่อเติมเครดิตเล่นบาคาร่า

 

ผลการตรวจสอบพบว่า มีเงินกว่า 300 ล้านบาทที่ถูกโอนจากวัดไปยังบัญชีของพระธรรมวชิรานุวัตร และมีความเคลื่อนไหวของเงินรวมมากกว่า 500 ล้านบาทในเครือข่ายพนัน นอกจากนี้ เมื่อเงินวัดเริ่มหมด พระธรรมวชิรานุวัตรยังยืมเงินจากพระผู้ใหญ่รูปอื่นในวงการสงฆ์อีกหลายล้านบาทเพื่อเล่นพนันต่อเนื่อง ศาลอาญาคดีทุจริตจึงอนุมัติหมายจับ พร้อมเตรียมนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

 

ขณะเดียวกัน ประชาชนจำนวนมากได้กล่าวถึง “ลุงเอี่ยม” ขอทานใจบุญวัย 66 ปี ที่เคยบริจาคเงินให้วัดไร่ขิงรวมกว่า 3 ล้านบาทตลอดหลายปี แต่กลับมีชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก ล่าสุดมีรายงานว่าเขาถูกขอให้ไปอยู่บริเวณหน้าวัด นั่งขายลอตเตอรี่ใต้แดดจ้า ไม่มีที่พักถาวร ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ของเจ้าอาวาสที่กำลังตกเป็นข่าวว่าทุจริตเงินวัดในขณะที่ผู้มีจิตศรัทธากลับไม่ได้รับการดูแล

โดยทาง บิ๊กเกรียน ได้อัพเดตชีวิตล่าสุดลุงเอี่ยมขอทานเงินล้าน เอาไว้ว่า "#นึกถึงลุงเอี่ยม ข่าวล่าสุด ลุงเอี่ยม ขอทานใจบุญ บริจาคเงินให้วัดไร่ขิง ถูกให้ไปอยู่ร้านค้า หน้าวัดไร่ขิง ​ลุงเอี่ยม หรือ นายเอี่ยม คัมภิรานนท์ วัย 66 ปี ขอทานใจบุญ แห่งวัดไร่ขิง เกิดมาพิการเป็นโปลิโอ อดมื้อกินมื้อ กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ​อาศัยอยู่กับญาติ อายุได้ 10 ขวบได้ออกเดินเร่ขายขนมหาเลี้ยงตัวเอง เพราะไม่อยากรบกวนญาติๆ

 

​มอบเงินนับล้านบาทที่ได้จากผู้ใจบุญมีจิตศรัทธาให้ทาน เก็บหอมรอมริบมากว่า 37 ปี จำนวน 999,999 บาท บริจาคให้กับวัด ส่วนที่เหลือ 1 บาท เก็บไว้เป็นเงินก้นถุง นอกจากนี้ยังรวบรวมเงินช่วยเหลือครอบครัวของสายัณห์อีก หลังจากเคยช่วยเหลือไปแล้ว 100,000 บาท ​เมื่อปี 2557 ลุงเอี่ยมได้ถอนเงินจากธนาคารบริจาคให้กับทางวัดไร่ขิงอีกเป็นจำนวน 2 ล้านบาท"

 

อย่างไรก็ตามมีคนเข้ามาคอมเมนต์เกี่ยวกับ ลุงเอี่ยมล่าสุด ว่า "แกโดนไล่ไปอยู่หน้าวัดนานแล้วคะ วัดไม่สร้างที่อยู่หรืออะไรให้แกเลย สงสารแกมาก ไม่น่าบริจาคเงินให้วัด เอาแกมานั่งขายล็อตเตอรี่ บางทีแดดส่องร้อนโดนแก ก็ไม่มีใครมาขยับให้เลย ผ่านไปเห็นทีไร สงสารแกตลอด" บ้างก็บอกว่า "ไปทีไรก็เห็นแกนั่งรถเข็นอยู่หน้าโบสถ์ เดือนก่อนไป แกเรียกไปช่วยเข็นรถเข็นแกขึ้นทางลาดให้หน่อย"