แพทย์เตือน "เหน็บชา" ไม่ใช่เรื่องเล็ก! อาการไม่ควรมองข้าม!

แพทย์เตือนนี่คือสัญญาณจากร่างกายที่คุณไม่ควรมองข้าม! "เหน็บชา" ที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราวจากการนั่งทับขา หรือเป็นเรื้อรังที่ปลายนิ้วมือปลายเท้า
สัญญาณเตือน "เหน็บชา" ไม่ใช่เรื่องเล็ก! ชาที่ไหน? บอกโรคอะไรได้บ้าง? แพทย์เตือนนี่คือสัญญาณจากร่างกายที่คุณไม่ควรมองข้าม!
อาการ "เหน็บชา" ที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราวจากการนั่งทับขา หรือเป็นเรื้อรังที่ปลายนิ้วมือปลายเท้า
แท้จริงแล้วนี่คือสัญญาณที่ร่างกายกำลังส่งมาบอกว่าอาจมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับ ระบบประสาท หรือ การไหลเวียนโลหิต ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับโรคหรือภาวะสุขภาพที่ซับซ้อนกว่าที่คิด
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชี้ว่า ตำแหน่งที่เกิดอาการ เหน็บชา เป็นกุญแจสำคัญในการหาสาเหตุ
ชาที่มือและนิ้วมือ: อาจบ่งชี้ถึง โรครูปร่างมือเสื่อม, โรคเส้นประสาทข้อศอกถูกกดทับ, หรือปัญหาจาก หมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ไปจนถึง ปลายประสาทอักเสบ ที่พบบ่อยในผู้ป่วย โรคเบาหวาน หรือ ขาดวิตามิน B12
ชาที่เท้าและนิ้วเท้า: คล้ายกับมือ ส่วนใหญ่มักเกิดจาก ปลายประสาทอักเสบ (จากเบาหวาน หรือขาดวิตามิน), โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ที่ชาลามลงขา หรือ ภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ
ชาที่แขน ขา (ภาพรวม) หรือครึ่งซีกของร่างกาย: นี่คือสัญญาณอันตรายที่อาจบ่งชี้ถึง โรคหลอดเลือดสมอง ที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที, ปลอกประสาทเสื่อมแข็ง หรือ ไขสันหลังถูกกดทับ
ชาที่ใบหน้า/ปาก: อาจเกี่ยวข้องกับ โรคหลอดเลือดสมอง, เส้นประสาทไตรเจมินัลอักเสบ หรือโรคทางระบบประสาทอื่นๆ
อาการเหน็บชาไม่ใช่เพียงความรู้สึกไม่สบายตัว แต่เป็นการส่งสัญญาณของร่างกายว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบประสาทหรือการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจเป็นผลมาจากโรคเรื้อรัง หรือโรคอันตรายที่แอบแฝงอยู่
คำแนะนำ: หากคุณมีอาการเหน็บชาบ่อยๆ เป็นนาน ไม่หายไปเอง หรือมีอาการอ่อนแรงร่วมด้วย ห้ามละเลยเด็ดขาด!
ควรรีบปรึกษา แพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด จะช่วยให้ทราบสาเหตุที่แท้จริงและได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที