พบซาก "วาฬคูเวียร์" วาฬหายากดำน้ำได้ลึกที่สุดในโลก เกยตื้นตายที่ระนอง

"วาฬหายากเกยตื้นตายที่ระนอง" โดยทางด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat แชร์โพสต์ภาพวาฬเกยตื้นตาย พร้อมระบุว่า...

วาฬเกยตื้นที่ระนอง คิดว่าเป็นวาฬคูเวียร์ Cuvier's beaked whale เป็นวาฬหายาก ดำน้ำได้ลึกมาก จนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่ดำน้ำได้ลึกที่สุดในโลก ลงได้ถึง 3,000 เมตร !

 

วาฬชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม beaked whale หรือวาฬที่มีจะงอยปาก คล้ายกับ "ปากขวด" ของโลมา ส่วนใหญ่เป็นวาฬน้ำลึก คนไม่ค่อยรู้จัก

 

วาฬ beaked whale มีรายงานในไทย 3 ชนิด เบรนวิลล์ คูเวียร์ และ Ginkgo-toothed beaked whale ทั้งหมดเป็นวาฬหายากของบ้านเรา เจอเฉพาะเกยตื้นเท่านั้น รวมกัน 3 ชนิดยังมีรายงานแค่ไม่ถึง 10 ครั้ง

ถ้าเป็นเฉพาะชนิดนี้ 4 ครั้ง ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เนื่องจากเป็นวาฬน้ำลึกอาศัยอยู่ในมหาสมุทรทั่วโลก จึงเกยตื้นได้ทั้งอ่าวไทย (แปซิฟิก) และอันดามัน (ม.อินเดีย)

 

เมื่อปี 66 เคยมีรายงานวาฬเบรนวิลล์ อยู่ในกลุ่มนี้ เกยตื้นที่สงขลา

 

วาฬคูเวียร์อาจโตได้ถึง 5-6 เมตร น้ำหนัก 2-3 ตัน อยู่เป็นฝูงเล็กๆ กินหมึกทะเลน้ำลึกเป็นอาหารหลัก จึงดำน้ำได้ลึก คล้ายๆ กับวาฬหัวทุยที่ดำน้ำลึกกินหมึกกล้วยยักษ์ (แต่ sperm whale ลงลึกได้แค่ที่ 2 นะ)

 

สถานภาพในไทยคือสัตว์คุ้มครอง แม้ไม่เคยมีรายงานว่ามีการจับหรือติดอวน เนื่องจากวาฬชนิดนี้อยู่น้ำลึกในมหาสมุทร

 

คาดว่าวาฬคงป่วยและเข้าใกล้ฝั่ง ก่อนอำลาจากไปครับ

อุทยานแห่งชาติแหลมสน - Laem Son National Park เผยว่า เช้าวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เวลา 6.00 น. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่พบวาฬเกยตื้น บริเวณหาดบางเบน ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง จนท.อุทยานฯได้เข้าตรวจสอบเบื้องต้น พบเป็นวาฬคูเวียร์ (Cuvier's beaked whale) เพศเมีย ขนาดลำตัวยาว 510 ซม. รอบตัวยาว 220 ซม. สาเหตุเบื้องต้นคาดเกิดจากอาการป่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการรอศูนย์วิจัยทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบนมาผ่าชันสูตรหาสาเหตุอีกครั้ง

วาฬคูเวียร์..เป็นชนิดวาฬหายาก จัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถดำน้ำได้นานและลึกที่สุดในโลกถึง 3000 เมตร ด้านหลังและด้านข้างเป็นสีเทาเข้มไปจนถึงน้ำตาลแดง ส่วนท้องและหัวมีสีอ่อน มีสีเข้มรอบดวงตา มีจะงอยปากและร่องคอสองอัน เส้นปากสั้นโค้งขึ้นและดูเหมือนรอยยิ้ม ครีบหลังอยู่ทางด้านท้ายลำตัว เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ. สงวนและคุ่มครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2535 จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 168