ลูกชายโกรธพ่อมาก ไม่ยอมรับมรดก 14 ล้าน ก่อนเจอแม่พูดประโยคเดียว

ลูกชายโกรธพ่อมาก ยังไงก็ไม่ยอมรับมรดก 14 ล้าน เจอแม่พูดประโยคเดียว ถึงปฏิเสธไม่ออก จำใจเซ็นรับทรัพย์สินมหาศาล
ชายชาวเวียดนามคนหนึ่งได้เล่าย้อนความทรงจำอันฝังใจในวัยเด็กว่า เมื่อเขาอายุเพียง 8 ขวบ เขาจำได้แม่นว่าเห็นแม่ของเขานั่งร้องไห้ตาบวมอยู่หน้าประตูบ้าน ขณะเดียวกัน พ่อของเขาก็กำลังเก็บของออกจากบ้านโดยไม่หันกลับมาอีกเลย เสียงซุบซิบในละแวกบ้านเล่ากันว่า พ่อของเขาไปอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ที่รวยและสวยกว่าแม่ ซึ่งเขาไม่เคยรู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นแน่ชัดคือ แม่ของเขาต้องกลายเป็นทั้งพ่อและแม่ที่เลี้ยงเขาด้วยตัวคนเดียวมาตลอด
ในช่วงหนึ่งของวัยเด็ก เขาเคยมีความหวังว่าพ่อจะกลับมา พาเขาไปเล่นฟุตบอล หรือช่วยซ่อมจักรยานคันเก่าที่เขารัก แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ความผูกพันที่เคยมีก็ค่อย ๆ จางหาย จนสุดท้ายกลายเป็นความโกรธและบาดแผลในใจ “หากมีใครถามถึงพ่อของฉัน ฉันคงตอบได้สั้น ๆ ว่า เขาตายไปแล้ว” เขากล่าวอย่างเจ็บปวด
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี ขณะที่เขาอายุ 27 ปี พ่อของเขาก็กลับมาแบบไม่คาดฝัน เขานั่งรอเงียบ ๆ อยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มจำได้ทันทีว่าเป็นพ่อ แม้จะดูแก่ลง มีผมหงอก และแววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรอีก พ่อบอกเพียงว่าอยากกลับมาแก้ไข อยากชดเชยสิ่งที่ขาดหายไป ทำให้เขาหัวเราะและพูดตรง ๆ ว่า “ฉันไม่ต้องการพ่อที่โผล่มาตอนที่ผมหงอกและสุขภาพไม่ดี” พ่อของเขาไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าและทิ้งกระดาษแผ่นหนึ่งไว้
กระดาษใบนั้นคือผลตรวจร่างกายที่ระบุว่า พ่อของเขาเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ซึ่งตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเปลี่ยนใจนัก หลังจากนั้น เขาไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลเพียงครั้งเดียว และอีกประมาณหนึ่งเดือนถัดมา พ่อของเขาก็เสียชีวิต โดยไม่มีผู้หญิงที่พ่อเคยเลือกมาเยี่ยมแม้แต่งานศพ มีเพียงแม่และลุงที่จัดพิธีอย่างเรียบง่าย
สองวันหลังงานศพ ทนายความเดินทางมาที่บ้านเพื่อเปิดพินัยกรรมของพ่อ ระบุว่าเขาคือผู้รับมรดกเพียงคนเดียว ประกอบด้วยบ้านหลังใหญ่ มูลค่า 8,000 ล้านดอง และเงินออมอีก 4,000 ล้านดอง รวมเป็นทรัพย์สินราว 12,000 ล้านดอง หรือประมาณ 14.8 ล้านบาท ชายหนุ่มตกใจ แต่ก็ไม่รู้สึกซาบซึ้งใด ๆ “ตอนเป็นเด็ก พ่อไม่เคยให้แม้แต่ค่าขนม แต่ตอนนี้กลับทิ้งเงินหมื่นล้านไว้ให้ มันไม่มีค่าอะไรสำหรับฉันเลย” เขากล่าวอย่างเย็นชา
แม่ของเขา ซึ่งเข้าใจความรู้สึกของลูกชายดีที่สุด ได้พูดเพียงเบา ๆ ว่า “ลูกอาจไม่ต้องการความรักจากพ่อ แต่นั่นคือหนี้ที่พ่อต้องจ่ายให้… ลูกเป็นลูกคนเดียวของพ่อ ยอมรับมันเสีย” คำพูดนี้ทำให้เขาตัดสินใจรับมรดกในที่สุด ในฐานะการให้อภัยและปลดปล่อย แม้ในใจลึก ๆ เขายังไม่แน่ใจว่าเขาหายโกรธพ่อแล้วหรือยัง และอดสงสัยไม่ได้ว่า หากวันนั้นพ่อเลือกเขาแทนผู้หญิงคนนั้น วันนี้ชีวิตเขาจะเป็นเช่นไร…
ข้อมูลจาก Soha

พยากรณ์อากาศวันนี้ เตือนฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่

ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ที่หมู่เกาะโทคาระ สั่งอพยพประชาชน

เจ้าอาวาสวัดม่วง เผยยอดเงินเก็บตลอด 40 ปี ส่วนเงินที่หายเอาไปทำอะไร

"แก้ว อภิรดี" ศัลยกรรมครบ2เดือน เด็กลงมาก สวยสับจนคนแห่ชมสนั่น
