ข่าว

heading-ข่าว

น้ำจิ้ม กินเยอะ อาจเสี่ยงเป็นโรคได้ รู้ทันภัยเงียบใกล้ตัว

03 ก.ค. 2568 | 17:38 น.
น้ำจิ้ม กินเยอะ อาจเสี่ยงเป็นโรคได้ รู้ทันภัยเงียบใกล้ตัว

น้ำจิ้มรสเด็ดคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้อาหารไทยอร่อยครบรส แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในความอร่อยนั้นแฝงไว้ด้วย ภัยเงียบ ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้?

อันตรายจากน้ำจิ้ม: ภัยเงียบที่มองข้ามไม่ได้

น้ำจิ้มส่วนใหญ่ที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มซีฟู้ด พริกน้ำปลา หรือซอสปรุงรสต่างๆ มักมีปริมาณ โซเดียม สูงมาก โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ ดังนี้:

โรคความดันโลหิตสูง: การบริโภคโซเดียมมากเกินไปเป็นสาเหตุหลักของภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นประตูสู่โรคแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต

โรคไต: ไตมีหน้าที่กำจัดโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย เมื่อได้รับโซเดียมมากเกินไป ไตต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรังได้

โรคหัวใจและหลอดเลือด: ความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการบริโภคโซเดียมเกิน ส่งผลให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบลง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและภาวะหัวใจล้มเหลว

ภาวะตัวบวม/บวมน้ำ: โซเดียมมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำในร่างกาย การได้รับโซเดียมมากเกินไปจึงทำให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้

โรคกระดูกพรุน: การบริโภคโซเดียมปริมาณมากอาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมแคลเซียม ทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะมากขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนในระยะยาว

น้ำจิ้ม กินเยอะ อาจเสี่ยงเป็นโรคได้ รู้ทันภัยเงียบใกล้ตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สัญญาณเตือนว่าคุณอาจกำลังบริโภคโซเดียมเกิน

แม้จะไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก แต่หากคุณสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังบริโภคโซเดียมมากเกินไป:

กระหายน้ำบ่อยผิดปกติ: ร่างกายพยายามขับโซเดียมส่วนเกินออกจึงต้องการน้ำมากขึ้น

ปัสสาวะบ่อย: ไตทำงานหนักขึ้นเพื่อขับโซเดียมและน้ำส่วนเกิน

บวมตามร่างกาย โดยเฉพาะที่มือ เท้า ข้อเท้า: เกิดจากการกักเก็บน้ำของโซเดียม

ปวดหัวบ่อย: อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของความดันโลหิตที่สูงขึ้น

น้ำจิ้ม กินเยอะ อาจเสี่ยงเป็นโรคได้ รู้ทันภัยเงียบใกล้ตัว

ปรับพฤติกรรม ลดเสี่ยงโรค เริ่มที่น้ำจิ้ม!

การลดปริมาณโซเดียมในอาหารไม่จำเป็นต้องทำให้มื้ออาหารจืดชืด เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่ายๆ ดังนี้:

ชิมก่อนปรุง: หลายคนมักจะราดน้ำจิ้มลงบนอาหารทันทีโดยไม่ได้ชิมรสชาติอาหารก่อน ลองชิมอาหารก่อนแล้วค่อยเติมน้ำจิ้มในปริมาณที่พอเหมาะ

ลดปริมาณน้ำจิ้ม: ตักน้ำจิ้มในปริมาณที่น้อยลง หรือจิ้มแค่พอมีรสชาติ ไม่ต้องราดจนชุ่ม

เลือกน้ำจิ้มสูตรลดโซเดียม: ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มสำเร็จรูปสูตรลดโซเดียมให้เลือกมากมาย ลองเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้

ทำน้ำจิ้มเอง: การทำน้ำจิ้มเองที่บ้านทำให้คุณควบคุมปริมาณโซเดียมได้ดีที่สุด โดยลดการใช้น้ำปลา ซีอิ๊ว หรือซอสปรุงรสลง แล้วเน้นส่วนผสมที่ให้รสเปรี้ยว เผ็ด หอม เช่น มะนาว พริก กระเทียม รากผักชี

ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศเพิ่มรสชาติ: เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้อาหารด้วยสมุนไพรสดต่างๆ เช่น ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง แทนการพึ่งความเค็ม

อ่านฉลากโภชนาการ: ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือน้ำจิ้ม ควรอ่านฉลากโภชนาการเพื่อดูปริมาณโซเดียมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคน้ำจิ้มอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ส่งผลมหาศาลต่อสุขภาพในระยะยาว ลดเค็มวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในวันหน้า คุณพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นแล้วหรือยัง?

น้ำจิ้ม กินเยอะ อาจเสี่ยงเป็นโรคได้ รู้ทันภัยเงียบใกล้ตัว

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

โพสต์ล่าสุด “น้องเต้าหู้” อินฟลูฯจีน หลังเผยความลับถูกลักพาตัว

โพสต์ล่าสุด “น้องเต้าหู้” อินฟลูฯจีน หลังเผยความลับถูกลักพาตัว

พยากรณ์อากาศวันนี้วันนี้ ฝนตกหนัก พายุดานัสจ่อขึ้นฝั่งไต้หวัน

พยากรณ์อากาศวันนี้วันนี้ ฝนตกหนัก พายุดานัสจ่อขึ้นฝั่งไต้หวัน

อย่าทำแบบนี้ "ดุ๊ก ภาณุเดช" ถูกบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่

อย่าทำแบบนี้ "ดุ๊ก ภาณุเดช" ถูกบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่

"งิ้วแต้จิ๋ว" สะพานวัฒนธรรมแห่งความทรงจำ ฉลอง 50 ปี มิตรภาพไทย-จีน

"งิ้วแต้จิ๋ว" สะพานวัฒนธรรมแห่งความทรงจำ ฉลอง 50 ปี มิตรภาพไทย-จีน

"หมอดัง"เปิดเคส"จุดขาวปริศนา"เต็มหลังชายวัย 70 เฉลยชัดคืออะไร

"หมอดัง"เปิดเคส"จุดขาวปริศนา"เต็มหลังชายวัย 70 เฉลยชัดคืออะไร