ข่าว

heading-ข่าว

ดีอี เผย 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

23 ก.ค. 2568 | 13:58 น.
ดีอี เผย 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

ดีอี เผย 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์เห็นผล ยับยั้งมูลค่าความเสียหายได้กว่า 5,800 ล้านบาท

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2568 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะการปราบปรามการก่อเหตุของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการหลอกลวงทางออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยยกระดับ “ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC)” เป็น “ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หรือ ศปอท. ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์ สั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน ประสานงานวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ปัจจุบัน ศปอท. ได้บูรณาการข้อมูลร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ฯลฯ  ซึ่งมีผลทำให้การดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ปรากฎเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น 

ดีอี เผย 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำหรับผลการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงวันที่  14 เมษายน – 20 กรกฎาคม 2568 (ระยะเวลา 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.) สามารถดำเนินการปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์จำนวน 19,676 URLs และแพลตฟอร์มหลอกลวงจำนวน 14,143 URLs พร้อมระงับบัญชีธนาคารได้เป็นจำนวน 181,989 บัญชี 

ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ ศปอท. สามารถจัดการคดีอาชญากรรมออนไลน์ได้แล้วจำนวน 88,995 คดี ช่วยยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงประชาชนได้เป็นจำนวน 5,895.96 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกันกระทรวงดีอี ยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในกระบวนการปิดกั้นเว็บไซต์ ซึ่งสามารถตรวจสอบ URLs ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายได้รวดเร็ว (เทียบเท่าการทำงานโดยเจ้าหน้าที่จำนวน 94 คน) ช่วยลดขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลลงได้ 5 วันทำการ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวน URLs ที่ถูกสั่งปิดในปี 2568 ได้ถึงร้อยละ 70.7 (โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 175 URLs)

อย่างไรก็ตาม พระราชกำหนดฯ ดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถบูรณาการดำเนินการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการกำหนดให้หน่วยงานเอกชนมีส่วนร่วมรับผิดในความเสียหาย เกิดการป้องกันการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่รัดกุม ซึ่งที่ผ่านมาสามารถลดมูลค่าความเสียหายได้อย่างมีนัยสำคัญอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังกำหนดมาตรการที่จะช่วยเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของมิจฉาชีพ

ดีอี เผย 3 เดือนหลังบังคับใช้ พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"น้ำยืน" เงียบร้าง หลังถูกประกาศเป็นโซนสีแดง  สั่งอพยพประชาชน

"น้ำยืน" เงียบร้าง หลังถูกประกาศเป็นโซนสีแดง สั่งอพยพประชาชน

บิ๊กป้อม ห่วงใยทหารไทยทุกนาย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

บิ๊กป้อม ห่วงใยทหารไทยทุกนาย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

อาลัย ทหารกล้าดับเพิ่มอีกนาย มทบ.25 ส่งร่าง 3 วีรบุรุษกลับบ้าน

อาลัย ทหารกล้าดับเพิ่มอีกนาย มทบ.25 ส่งร่าง 3 วีรบุรุษกลับบ้าน

สำรวจสภาพความเสียหาย อ.น้ำยืน หลังเหตุปะทะไทย–กัมพูชา

สำรวจสภาพความเสียหาย อ.น้ำยืน หลังเหตุปะทะไทย–กัมพูชา

"แพทองธาร" โต้ลั่น  "ชินวัตร" ไม่ใช่ต้นตอสู้รบไทย-กัมพูชา

"แพทองธาร" โต้ลั่น "ชินวัตร" ไม่ใช่ต้นตอสู้รบไทย-กัมพูชา