สกัดจับหนุ่มวัย 22 ซุกยาเสพติดในโคมไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.68 พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ บูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เข้ามายังพื้นที่ตอนใน

จึงสั่งการให้ พันเอก พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า จัดกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี และ สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่ตอนใน

ต่อมา เวลา 21.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี สังเกตพบรถจักรยานยนต์ลักษณะตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว ขับขี่มาจาก อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ พบผู้ต้องสงสัย อายุ 22 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 05-940 กาญจนบุรี โดยมีผู้ต้องสงสัย อายุ 29 ปี และผู้ต้องสงสัย อายุ 41 ปี นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วย ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบอยู่นั้น สังเกตพฤติการณ์ของ ผู้ต้องสงสัยแสดงอาการพิรุธชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบ ยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 400 เม็ด บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกสีฟ้า พันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ จำนวน 2 ห่อ ซุกซ่อนอยู่ภายในโคมไฟหน้ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

จากการซักถาม ผู้ต้องสงสัยให้การยอมรับว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยตนใช้เส้นทางธรรมชาติ บ้านบ่อญี่ปุ่น ลักลอบข้ามชายแดนไปซื้อยาบ้า จำนวน 400 เม็ด เป็นเงิน 6,500 บาท จาก นายใหญ่ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ในพื้นที่ อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา และลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าวข้ามกลับมายังประเทศไทย ซึ่งกำลังจะลักลอบนำยาเสพติดดังกล่าวเข้าไปยังพื้นที่ตอนใน แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้กระทำความผิดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินการสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : กองทัพบก