โบราณสถานใต้เงาความขัดแย้ง ความงามและเงียบงันของ "ตาเมือนธม"

โบราณสถานขอมอายุหลายศตวรรษที่ตั้งตระหง่านบนสันเขาพนมดงรัก กลายเป็นจุดเฝ้ามองทั้งในมุมมรดกทางวัฒนธรรมและประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างไทย-กัมพูชา
“ปราสาทตาเมือนธม” โบราณสถานขอมบนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ศิลปะสมัยบายนที่มีทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์และยุทธศาสตร์
ท่ามกลางผืนป่าเขียวชอุ่มของสันเขาพนมดงรัก อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ซ่อนโบราณสถานหินทรายอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมไว้ นั่นคือ ปราสาทตาเมือนธม โบราณสถานขนาดใหญ่ที่มีอายุกว่า 800 ปี และเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มปราสาทตาเมือนซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ตัวปราสาทตั้งอยู่ในแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่มีประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนอยู่หลายทศวรรษ ทำให้แม้จะเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าในด้านศิลปกรรมขอมแบบบายนในยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แต่การเข้าถึงและดูแลกลับต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านความมั่นคง
ตัวปราสาทประกอบด้วยปรางค์ประธานขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สร้างจากหินทรายบนฐานศิลาแลง ภายในมีศิวลึงค์ สัญลักษณ์ของศาสนาฮินดู แต่ก็พบโครงสร้างของ “อโรคยศาล” หรือสถานพยาบาลในยุคขอมด้วย สะท้อนถึงบทบาททางสังคมและศาสนาที่หลอมรวมกันอย่างกลมกลืน
การเยี่ยมชมปราสาทในปัจจุบันต้องผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทหาร เนื่องจากตัวปราสาทอยู่ติดแนวเขตชายแดน และเคยเป็นจุดเผชิญหน้าของกองกำลังทั้งไทยและกัมพูชา แม้สถานการณ์ล่าสุดจะสงบ แต่ยังคงมีการตรึงกำลังเฝ้าระวัง
นักวิชาการด้านโบราณคดีชี้ว่า ปราสาทตาเมือนธมถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของอารยธรรมขอมโบราณ โดยเป็นทั้งจุดพักคาราวานและเส้นทางเชื่อมจากนครวัดสู่นครธม และเชื่อมโยงไปยังปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดพิพาทระหว่างสองประเทศ
ภาครัฐและชุมชนท้องถิ่นพยายามผลักดันให้เกิดการบูรณะและยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังติดข้อจำกัดด้านความมั่นคงและการจัดการข้ามพรมแดน