ชาวอุดรฯ เฮ! รับที่ดินทหาร “หนองวัวซอโมเดล” เนื้อที่กว่า 9,000 ไร่
นายกฯ มอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล สร้างความมั่นคง ด้านที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำกิน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและวิสาหกิจชุมชน โดยมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 อธิบดีกรมธนารักษ์ ห้วหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มามอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในวันนี้ โดยที่มาของการดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับที่ทำกินของประชาชนทุกคน และได้รับทราบว่าทางกองทัพมีที่ดินอยู่ในการดูแลจำนวนมาก ซึ่งนายกฯ ได้มีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องและมีการศึกษาข้อมูลในเชิงลึก ในการที่จะพิจารณานำที่ดินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชน
โดยนายกฯ ยังคำนึงถึงการให้ความสำคัญเรื่องของภารกิจของกองทัพในการดูแลด้านความมั่นคง รักษาความปลอดภัยและรักษาเอกราช โดยมีการดำเนินการให้เกิดความสมดุลกัน ซึ่งตรงนี้ทางกองทัพก็ไม่เคยลืมเช่นกันว่าประชาชนต้องการพื้นที่ทำกิน โดยที่ในแต่ละพื้นที่ที่กองทัพดูแลร่วมกับกระทรวงการคลัง มีพื้นที่บางส่วนที่ไม่ใช้ประโยชน์ ซึ่งกองทัพตระหนักดีว่าประชาชนต้องการพื้นที่ทำกินตรงนี้ รัฐบาลนี้ตั้งแต่วันแรกที่นายกฯ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการพบปะกับแม่ทัพทุกท่าน รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะกำกับกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน จึงได้มีการพูดคุยกันที่จะนำที่ดินพื้นที่เหลือและไม่ได้ใช้การดูแลด้านความมั่นคง มาเป็นที่ทำกินให้กับประชาชน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
โดยภายในระยะเวลา 4 - 5 เดือน ทางกองทัพและกระทรวงการคลังทำงานได้รวดเร็วมาก พื้นที่กว่า 9,000 ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์ 500 ครอบครัว ทั้งที่อยู่อาศัย และเป็นที่ทำมาหากิน
นายกฯ ย้ำว่าพื้นที่เหล่านี้กองทัพไม่ส่งมอบแค่ที่ดินเพียงอย่างเดียว โดยกองทัพตระหนักดีว่าประชาชนต้องเอาที่ดินเหล่านี้ไปทำมาหากิน ทำพื้นที่ทางการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ทั้งนี้ปัญหาใหญ่คือระบบชลประทานซึ่งหากไม่บริหารจัดการให้ดีก็จะมีน้ำท่วมน้ำแล้ง
โดยจากข้อมูลทราบว่าพื้นที่หนองวัวซอ มีพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเท่านั้น ซึ่งกองทัพร่วมกับรัฐบาลก็ได้มีการจัดการเรื่องระบบชลประทานมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่ที่มอบให้กับประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่แค่ให้พื้นที่อย่างเดียว แต่มีการดูแลให้ครบให้ประชาชนมีสิทธิทำมาหากินได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งสิทธิทำกินเหล่านี้สามารถนำไปกู้เงินและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการหาแหล่งเงินทุนมาเป็นต้นทุนทำหลาย ๆ อย่างได้ในอนคต
“วันนี้ที่มารับมอบสัญญาเช่าฯ มีหลายครอบครัว แต่ยังไม่สิ้นสุด จะมีการมอบสัญญาเช่าฯ เพิ่มอีก ขอแสดงความยินดีกับประชาชนทุกคนที่ได้รับมอบสัญญาเช่าฯ สิทธิทำกินดังกล่าว และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ทำให้มีวันนี้ได้ เพราะรัฐบาลเองทำงานคนเดียวไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ มีส่วนช่วยให้เกิดขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาล กองทัพ เข้าใจถึงปัญหาของประชาชน และจะดำเนินการขับเคลื่อนไปด้วยกันต่อไป” นายกฯ กล่าว
นายกฯ ได้มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” จำนวน 434 ราย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการทหารบก อธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมมอบสัญญาเช่าฯ โดยมีผู้เช่าที่ราชพัสดุที่มารับมอบสัญญาเช่าฯ จำนวน 299 ราย
สำหรับการทำพิธีมอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล”
เกิดจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่อุดรธานีได้ดำเนินการบริหารจัดการที่ราชพัสดุในความครอบครองของกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก “หนองวัวซอโมเดล” บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ อด. 1816 (บางส่วน) ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยมีผลการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่
- การจัดทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 434 ราย 584 แปลง จำแนกเป็นเพื่ออยู่อาศัย 105 แปลง เนื้อที่ประมาณ 39-2-87 ไร่ และเพื่อการเกษตร 479 แปลง เนื้อที่ประมาณ 3,133-2-97 ไร่
- นำเสนอเกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ร่วมกับภาคธุรกิจ เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของกลุ่มเกษตรกรในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการทำการเกษตร
- สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อการขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนภาคเกษตรของไทยสู่เกษตรสมัยใหม่ด้วย
ทั้งนี้ กอ.รมน. จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลการบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ โดยยึด “หนองวัวซอโมเดล” เป็นต้นแบบ ในพื้นที่อื่น ๆ ของกองทัพ
ระยะแรก นอกเหนือจากโครงการหนองวัวซอแล้ว ยังมีพื้นที่อื่น ได้แก่
- พื้นที่ของกองบัญชาการกองทัพไทย บริเวณบ้านแก่งประลอมและบ้านพุราด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
- พื้นที่ของกองทัพอากาศ บริเวณสนามบินนครพนม จ.นครพนม
- พื้นที่ของกองทัพเรือ บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้ที่ดินของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุดตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป