OMODA & JAECOO ค่ายยักษ์ใหญ่จีน บุกตลาดไทย ตอบโจทย์ยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม
OMODA & JAECOO เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เตรียมเปิดจำหน่ายรถยนต์รุ่นแรก OMODA C5 EV รถยนต์ EV 100% เร็วๆนี้ พร้อมเปิดต่อเนื่องอีก 3 รุ่นภายในปี 2567 ตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศจีนในไทย
“ชุมชนยั่งยืน” วันนี้ พามาติดตามเรื่องราวการสร้างความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมของค่ายรถยนต์สัญชาติจีนภายใต้แบรนด์โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) หรือ OMODA & JAECOO (Thailand) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยไปแล้วในวันที่ 20 มีนาคม 2567 ที่ โรงแรมแบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์
โดยภายในงานมีนายเฉิน ชุนชิง รองประธาน เชอรี่ อินเตอร์เนชันแนล นายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด และนายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ขึ้นพูดถึงความพร้อมและภาพรวมการเปิดตลาดในประเทศไทย
ซึ่งโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จะเปิดโชว์รูม มากกว่า 35 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด พร้อมยืนยันว่าจะสร้างความเชื่อมั่น และสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขับขี่ในประเทศไทยอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ตั้งเป้าหมายจะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 แบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศจีนในไทย เพื่อตอกย้ำศักยภาพและความพร้อมของแบรนด์ในการเข้ามาทำการตลาดอย่างยั่งยืนในประเทศไทย และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาในระดับโลก
นายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าถึงที่มาของชื่อ OMODA & JAECOO
OMODA
- O = Oxygen
- MODA = Model
หมายถึง ความทันสมัยที่มีชีวิตชีวา ที่จะออกเเบบผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูง ที่จะเปลี่ยนอนาคตของของเทคโนโลยียานยนต์ควบคู่กับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม
JAECOO
- JAE = JAEGER หรือ Jäger ในภาษเยอรมันที่หมายถึง นักล่า
- COO = COOL
หมายถึง นักล่าผู้สง่างาม ซึ่งจากการออกเเบบจะเห็นว่ารถในรุ่น JAECOO จะมีความเเข็งเเกร่ง ในเเบบออฟโรดประสิทธิภาพสูงเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย สามารถขับขี่ได้ทุกภูมิประเทศและสภาพพื้นผิวถนนในประเทศไทย
นายพิชญุตม์ ระบุด้วยว่าภายในปี 2567 นี้ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จะนำรถยนต์เข้ามาจำหน่ายทั้งสิ้น 4 รุ่น โดยจะเปิดจำหน่ายดังนี้
- รถยนต์รุ่นแรก OMODA C5 EV ในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่จะถึงนี้ โดย รถยนต์ OMODA C5 EV เป็นยนตรกรรม EV 100% ที่ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต เข้ากับเทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ มีฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม เชื่อมต่อผู้ขับขี่เข้าด้วยกันผ่านประสบการณ์ที่เป็น “มากกว่ารถยนต์” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ใส่ใจการมีชีวิตที่ดีควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
- JAECOO 7 PHEV จะนำรถเข้ามาในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งรุ่นนี้เป็นรถยนต์พรีเมียม เอสยูวี ออฟโรดประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย สามารถขับขี่ได้ทุกภูมิประเทศและสภาพพื้นผิวถนนสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย
- JAECOO 6 และ JAECOO 8 จะนำเข้ามาในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ความตั้งใจของ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) นอกจากจะมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงทางด้านยานยนต์อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญคือ การพัฒนารถยนต์ EV เทรนด์ใหม่ที่ใส่ใจโลกในอนาคตให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ด้วยพลังงานสะอาด มุ่งสู่การดูเเลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน