เปิดคำรับสารภาพ "แจ๊บ" พ่อเลี้ยงโหด ปมเหตุลงมือทำร้ายลูกเลี้ยง
เปิดคำรับสารภาพ "แจ๊บ" พ่อเลี้ยงโหด ปมเหตุลงมือทำร้ายลูกเลี้ยง วัย 12 ก่อนอำพรางร่าง จับยัดถังพลาสติกโบกปูนทับแล้วหลบหนี
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจ จากกรณี นายยุทธนา มาดี หรือ แจ๊บ อายุ 29 ปี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง วัย 12 ปี และนำร่างใส่ถังน้ำแข็ง โบกปูนทับ หลังจากนั้นก็หลบหนีไป ส่วนภรรยาถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 4 ก.ค. 66 ตำรวจสามารถควบคุมตัวพ่อเลี้ยงโหดได้ โดยหลบหนีไปกบดาลในโรงแรมย่านอินทามระ และควบคุมตัวมาสอบปากคำเข้ม
ต่อมาช่วงเวลา 17.30 น. ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับ ฝ่ายสืบสวนสน.บางเขน คุมตัว นายแจ๊บ มายังห้องสืบสวนสน.บางเขน โดยนายแจ๊บ มีสีหน้านิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้าน ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าไปสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 สอบสวนด้วยตนเอง
ทางด้าน พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยหลังสอบสวนนายแจ๊บ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยเล่าเหตุผลอ้างว่า ไม่พอใจเด็กที่ขโมยของจึงทำร้ายด้วยไม้เบสบอล ตีไปนับ 10 ครั้ง จนเด็กแน่นิ่งจึงลากร่างของน้องออกมาเพราะคิดว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ นายแจ๊บมักจะทะเลาะกับเด็กและเคยใช้ไม้ตี แต่ไม่ใช่ไม้เบสบอล ส่วนการอำพรางศพผู้ต้องหาอ้างว่ากลัวความผิด จึงไปซื้อถังน้ำแข็งพลาสติกที่ตลาดไทย จากนั้นซื้อปูนและดินปลูกต้นไม้มาก่อเหตุอำพราง
ส่วนที่เห็นเด็กไม่สวมเสื้อผ้า นายแจ๊บกล่าวอ้างว่า ตอนก่อเหตุเสื้อผ้าเด็กเปื้อน ตั้งใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่สุดท้ายไม่ได้ใส่ และปฏิเสธว่าไม่ได้คิดจะหั่นศพรวมถึงไม่ได้ล่วงละเมิดโดยตอนนี้ตำรวจพบเสื้อผ้าเด็กไม้เบสบอลและหลักฐานทั้งหมดแล้ว
และจากการที่ตรวจสอบประวัตินายแจ๊บ พบมีประวัติการใช้ยาเสพติด ส่วนตัวเด็กหญิงนั้น น.ส.มิ้นท์ ภรรยานายแจ๊บรับอุปการะมา โดยการไปขอกับแม่ของเด็กที่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่เด็กอายุราว 7 ขวบ โดยอ้างว่าตั้งใจจะเอามาส่งเรียน
ทางด้านตำรวจเบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิตและซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วน น.ส.มิ้นท์ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และจะพิจารณาในภายหลัง ส่วนผู้หญิงที่เจออยู่ด้วยกันตอนถูกจับไม่ได้เกี่ยวข้องทางคดี