เปิดผลตรวจปัสสาวะ เด็กม.2 ผู้ก่อเหตุแทงเพื่อนดับ ด้านแม่พูดเพียงสั้นๆ

ความคืบหน้ากรณีนักเรียนแทงกัน โดยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในซอยพัฒนาการ 26 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร สอบสวนเบื้องต้นพบว่า มือมีดสามารถพูดคุยตอบโต้ได้ตามปกติ และไม่ได้เป็นเด็กพิเศษตามที่ข่าวออกไปก่อนหน้านี้

และมีรายงานอีกว่า นักเรียนที่เสียชีวิตและนักเรียนที่ก่อเหตุ เรียนอยู่ชั้น ม.2 แต่อยู่คนละห้องกัน เบื้องต้นทราบว่า สาเหตุในการก่อเหตุมาจากมีการแกล้งกันในตอนเช้า กระทั่งมีการลงมือหลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จแล้ว

ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นักเรียนชายชั้น ม. 2 คนก่อเหตุ พร้อมกับ แม่ ออกจาก สน.คลองตัน โดยไม่ได้ระบุว่า จะคุมตัวไปที่ไหน ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงประเด็นในโลกออนไลน์ ที่มีการแชร์แชทข้อความ ที่อ้างเป็นครูในโรงเรียน ลักษณะ นักเรียนเตรียมที่จะก่อเหตุตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ม.ค.) แต่ไม่มีมีด

และไปขอเพื่อนในชั้นเรียนก็ไม่มีใครให้ ก่อนจะมาก่อเหตุในวันนี้ เมื่อถามว่าได้เตรียมการเอาไว้ก่อนหรือไม่ นักเรียนคนก่อเหตุไม่ตอบคำถามใดๆ ขณะที่แม่ของผู้ก่อเหตุ ยกมือไหว้ ก่อนจะพูดสั้นๆ ว่า "ขอโทษ" จากนั้นก็ขึ้นรถไป

ทางด้าน พ.ต.อ. วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยภายหลังสอบปากคำเยาวชน 14 ปี ก่อเหตุทำร้ายเพื่อนจนเสียชีวิตที่โรงเรียนว่า ได้สอบปากคำเด็กและพยาน ทั้งครูที่เห็นเหตุการณ์ และแม่ผู้เสียชีวิต สำหรับสาเหตุการก่อเหตุ เกิดจากความคับแค้นใจ ที่ถูกผู้เสียชีวิต มักจะมาบังคับขอเงินผู้ก่อเหตุในช่วงเที่ยง ครั้งละ 20 บาท

โดยมักจะก่อเหตุบนอาคารเรียน อ้างว่าจะนำไปซื้อบุหรี่ และมีการชกที่ศีรษะและใบหน้า ซึ่งโดนแบบนี้มาประมาณ 3 - 4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความคับแค้นใจจึงไปซื้อมีดพกติดตัวมาโรงเรียนในเช้าวันนี้ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปสอบปากคำพยานในโรงเรียนว่าพบเห็นพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือไม่

ทั้งนี้ ผู้กำกับสน.คลองตัน ยืนยันว่า จากการสอบปากคำพบว่า พฤติกรรมของเยาวชน 14 ปี มีสติสัมปชัญญะเต็ม 100% สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน นักจิตวิทยาและบุคคลที่ร่วมสอบปากคำ ลงความเห็นว่า เด็กมีสภาพจิตที่ปกติ แต่ในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิตอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ จากการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่า เคยดูดกัญชา 1 ครั้ง เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีประวัติเข้าออกสถานีตำรวจเป็นประจำ ตามที่เป็นกระแสข่าว

ทางด้าน พี่ชายเด็ก ม.2 ที่เสียชีวิต ออกมาเปิดใจด้วยการแสดงอาการไม่พอใจว่าโรงเรียนให้ปิดข่าวทำไม พร้อมทั้งยังบอกอีกว่า น้องตนเป็นคนร่าเริง ได้เงินวันละ 150 บาท จะไปไถเงินคนอื่นทำไม