กบน.เดินหน้าเคาะพร้อม ตรึงราคาน้ำมันดีเซล

16 สิงหาคม 2565

กบน.ได้ทำการประชุม ลงมติตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท ต่อลิตร เพื่อลดค่าครองชีพให้เเก่ประชาชนโดยทั่วกัน

กบน. เดินหน้าเคาะพร้อม ตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ทบทวนสถานการณ์ราคาน้ำมันในแต่สัปดาห์ เเละได้ทำการตรวจสอบ ราคาน้ำมันดีเซล โลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้ที่ประชุมยังคงมติตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท ต่อลิตร แต่ว่ากองทุนน้ำมันเริ่มทรงตัวติดลบ 1.17 แสนล้านบาท 

กบน.เดินหน้าเคาะพร้อม ตรึงราคาน้ำมันดีเซล

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท ซึ่งสถานการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) ยังคงมีความผันผวนปรับขึ้นลงระหว่างสัปดาห์ โดยราคาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ราคา GAS OIL อยู่ที่ 124.34 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเป็น 130.96 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาวันที่ 12 สิงหาคม 2565 หรือปรับเพิ่มขึ้น 6.62 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

สาเหตุที่ราคาน้ำมันดีเซลโลกปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจาก เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยงจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน การแพร่ระบาดของโควิด-19  เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น หนี้สาธารณะในหลายประเทศ รวมทั้งการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางจากสหรัฐฯ อังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น

กบน.เดินหน้าเคาะพร้อม ตรึงราคาน้ำมันดีเซล

รวมทั้งสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนสิงหาคม โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้อีก 380,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว   

ทั้งนี้ ในด้าน ราคาน้ำมันดีเซล มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้วางมาตรการลด ค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2565) 

สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 14 สิงหาคม 2565 ติดลบ 117,394 ล้านบาท ซึ่งเริ่มอยู่ในระดับทรงตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน (117,229 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 76,518 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 40,876 ล้านบาท