เศรษฐกิจ

heading-เศรษฐกิจ

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

18 เม.ย. 2566 | 18:46 น.
การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่ม มีวิธีการคิดค่าไฟอย่างไร เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดกินไฟเท่าไหร่ รวมทั้งมาตรการลดค่าไฟจากภาครัฐ เช็คได้เลย!

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

ค่าไฟฟ้าแพง ในช่วงนี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอากาศร้อน ทำให้ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อยกว่าเดิม แน่นอนว่าอาจทำให้บิลค่าไฟฟ้าของคุณมีตัวเลขที่มากกว่าปกติ จนมีคำถามคาใจว่าทำไม "ค่าไฟฟ้าแพง" ลองมาดูว่าค่าไฟฟ้าแพงนั้นเกิดจากอะไร มีวิธีการคิดค่าไฟอย่างไร เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดกินไฟเท่าไหร่ รวมทั้งมาตรการลดค่าไฟจากภาครัฐ 

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เหตุผลค่าไฟฟ้าแพง

อันดับแรกต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าค่าไฟฟ้าแพงนั้นเกิดจากอะไร โดยการไฟฟ้าจะคิดค่าไฟฟ้าแบบอัตราก้าวหน้า ยิ่งใช้มาก ยิ่งต้องจ่ายมาก ซึ่งตัวแปรของค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น คือ หน่วยการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอากาศร้อนทำให้มีโอกาสใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทมากกว่าปกติ เช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือตู้เย็น จึงทำให้มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นกว่าปกติ

บ้านที่มีปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าแพงส่วนมาก จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าดังต่อไปนี้

1. แอร์ และคอมเพรสเซอร์

2. เครื่องฟอกอากาศ

3. พัดลมไอน้ำ

4. ตู้เย็น

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ชี้แจง กรณีประชาชนพบ  “หน่วยไฟ” แม้จะมีการใช้งานไฟฟ้าเท่าเดิม ว่า สาเหตุหลักมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องทำความเย็นประเภทต่าง ๆ จะกินไฟเพิ่ม เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะใช้เท่าเดิมทั้งจำนวนชิ้น และ ระยะเวลาการเปิดใช้ เนื่องจากหลักการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ จะพยายามทำความเย็น หรือทำอุณภูมิให้เท่ากับที่เราตั้งค่าไว้

การไฟฟ้าฯ ชี้เเจงแล้วทำไมหน่วยค่าไฟเพิ่มขึ้น เช็คได้ที่นี่!

เมื่ออากาศร้อนขึ้น เครื่องไฟฟ้าเหล่านี้ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิให้เท่าเดิมนั่นเอง ส่งผลให้แอร์หรือตู้เย็นทำงานงานหนัก คอมฯทำความเย็นจะทำงานตลอดโดยไม่ตัดเลย ถึงใช้เวลาเท่าเดิมอย่างไรอัตราการใช้ไฟฟ้าก็เพิ่ม

ดังนั้น หากเทียบบิลค่าไฟฟ้าง่าย ๆ โดยย้อนไปดูหน่วยการใช้ไฟฟ้าเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งขณะนั้นอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศจะอยู่ที่ 18-23 องศาเซลเซียส และ มาเดือนมีนาคม ที่บางวันอุณหภูมิเพิ่มขึ้นไป 38-40 องศาเซลเซลเซียสต่างกันถึง 20 องศาเซลเซียส ซึ่งคำนวณตามสูตรของการไฟฟ้าฯ ที่ได้มีการทดสอบการทำงานของแอร์ 1 ตัว ขนาด 12,000 บีทียู เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส จะทำให้อัตราการกินไฟเพิ่มขึ้นประมาณ 3%

การไฟฟ้านครหลวง ได้อธิบายเพิ่มเติม โดยยกตัวอย่างการทดสอบตั้งเครื่องปรับอากาศอุณภูมิภายในห้องที่ 26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิภายนอกห้อง 35 องศาเซลเซียสต่อเนื่อง พบว่าจะใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 0.69 หน่วยต่อชั่วโมง แต่หากอุณหภูมิภายนอกห้องเพิ่ม 6 องศา เป็น 41 องศาเซลเซียสต่อเนื่อง เครื่องปรับอากาศดังกล่าวจะใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 0.79 หน่วยต่อชั่วโมง หรือเครื่องปรับอากาศจะใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 14%

 

ทั้งนี้ จากผลการทดสอบดังกล่าว หากคำนวณเป็นค่าไฟฟ้าในอัตราเฉลี่ยหน่วยละ 3.9 บาท จะพบว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ ในขณะที่อุณหภูมิภายนอกห้อง 35 องศาเซลเซียส จะทำให้เสียค่าไฟฟ้าประมาณ 2.69 บาทต่อชั่วโมง ขณะที่การใช้พลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ ในขณะที่อุณหภูมิภายนอกห้อง 41 องศาเซลเซียส จะทำให้เสียค่าไฟฟ้าประมาณ 3.08 บาทต่อชั่วโมง

 

และจากค่าไฟฟ้าที่แตกต่างกัน หากสมมุติการใช้งานเครื่องปรับอากาศเป็นระยะเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน นาน 30 วัน การใช้เครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิภายนอกห้อง 35 องศาเซลเซียส จะมีค่าไฟฟ้าประมาณ 646 บาท และการใช้เครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิภายนอกห้อง 41 องศาเซลเซียส จะมีค่าไฟฟ้าประมาณ 739 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าเดิม 93 บาทต่อการใช้เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง ดังนั้นแนะนำในการประหยัดค่าไฟคือ ประชาชนต้องหมั่นล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง และ เพิ่มการเปิดพัดลมช่วยทำให้อุณหภูมิต่ำลง แอร์จะทำงานหนักน้อยลง

ทั้งนี้สำหรับค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 2566 นั้น กกพ. มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเป็นอัตราเดียวกันสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ จะเพิ่มเป็น 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย

สำหรับค่าไฟฟ้าเอฟทีงวด ม.ค.-เม.ย. 66 ในส่วนของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยอยู่ในระดับ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเฉลี่ยรวมที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น (ได้แก่ประเภทธุรกิจ อุตสาหกรรม บริการ) อยู่ที่ 154.92 สตางค์ต่อหน่วยหรือเฉลี่ยที่ 5.33 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ ในงวดใหม่มีผลตั้งแต่ พ.ค.-ส.ค. 2566 ที่เป็นอัตราเดียวทำให้ค่าไฟประเภทบ้านที่อยู่อาศัยปรับขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.05 บาทต่อหน่วย ขณะที่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ฯลฯ จะปรับลดลง 0.56 บาทต่อหน่วย

 

ข่าวเด่น

"ทนายอนันต์ชัย"พาสมาชิกสมาคมฮินดูฯ บุก ปค.ร้อง ปธ.-คกก.เก่าขวางเลือกตั้ง

"ทนายอนันต์ชัย"พาสมาชิกสมาคมฮินดูฯ บุก ปค.ร้อง ปธ.-คกก.เก่าขวางเลือกตั้ง

ทำไมคนไทยถึงชอบกิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากขนาดนี้

ทำไมคนไทยถึงชอบกิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากขนาดนี้

"ทนายเดชา" ฝากข้อความถึงคนที่ไม่ชอบตน งานนี้ชาวเน็ตแห่ถูกใจ

"ทนายเดชา" ฝากข้อความถึงคนที่ไม่ชอบตน งานนี้ชาวเน็ตแห่ถูกใจ

โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

"ปู มัณฑนา" เผยแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ล็อตแรก 100 เคส

"ปู มัณฑนา" เผยแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ล็อตแรก 100 เคส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง