กระทรวงพาณิชย์ ไฟเขียวขึ้นราคานมยูเอชที เฉลี่ย 0.25-0.50 สตางค์ต่อกล่อง
กระทรวงพาณิชย์ไฟเขียวให้ผู้ประกอบการขึ้นราคานมพร้อมดื่ม 6 ราย นม UHT แล้ว ขวดเล็ก ขึ้น 25-50 สต. ไม่ถึง 70 สตางค์ที่เอกชนขอ ชี้ราคาขึ้นต่างกันตามส่วนผสม หลังจากนี้เปิดให้เอกชนแจ้งขอปรับ โดยดูจากการรับซื้อนมดิบ และสูตรผสม
กระทรวงพาณิชย์ ไฟเขียวขึ้นราคานมยูเอชที เฉลี่ย 0.25-0.50 สตางค์ต่อกล่อง
กระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งว่า ตามที่คณะกรรมการโคนม และผลิตภัณฑ์นม ประกาศปรับราคาน้ำมันนมดิบขึ้นจาก 20.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 22.75 บาทต่อกิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 2.25 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งมีผลกระทบให้ผู้ผลิตนมสดพร้อมดื่มมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นไปด้วย และได้มีการแจ้งขอปรับขึ้นราคาขายปลีกผลิตภัณฑ์นมกับกรมการค้าภายในมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2567
ล่าสุด กรมการค้าภายในได้อนุญาตให้มีการขึ้นราคานมพร้อมดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 6 ราย มีทั้งนมยูเอชที นมพลาสเจอร์ไรส์ นมสเตอริไลซ์ โดยการปรับขึ้นราคาในส่วนนมขนาดเล็กที่ได้รับความนิยม 180-225 ซีซี ให้ขึ้นขวดหรือกล่องเฉลี่ย 50 สตางค์ ขณะที่นมสดขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นเฉลี่ยกล่อง หรือขวดละ 2.5 บาท
ทั้งนี้ คาดว่าราคาใหม่จะปรับขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพราะต้องให้สต็อกเก่าราคาเดิมหมดก่อน ส่วนผู้ประกอบการที่นอกเหนือจาก 6 ราย ที่ได้รับอนุมัตให้ปรับราคา กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลรายละเอียด หากข้อมูลครบก็จะอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนต่อไป
สำหรับเกณฑ์การพิจารณาให้ปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมสดพร้อมดื่มนั้น กรมการค้าภายใน ได้อนุญาตให้ขึ้นเฉพาะในส่วนของต้นทุนน้ำนมดิบที่เพิ่มเท่านั้น ไม่รวมต้นทุนอื่น เช่น ค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง เพราะเป้าหมายของกรมการค้าภายใน คือ ต้องดูแลผู้บริโภคให้ได้รับผลกระทบจากขึ้นราคาให้น้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ และเกษตรกรได้ประโยชน์ ตามหลักสมดุลที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบนโยบายไว้
นอกจากการพิจารณาปรับราคา ผู้ประกอบการจะต้องแสดงให้เห็นถึงข้อมูลเอกสารสำคัญใช้ประกอบการขอขึ้นราคาด้วย เช่น เอกสารเกี่ยวกับการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ในอัตราที่มีการปรับขึ้นใหม่แล้วที่ กิโลกรัมละ 22.75 บาท และข้อมูลเกี่ยวกับสูตรการผลิต ที่มีสัดส่วนการใช้น้ำนมดิบในการผลิตส้นค้านมกล่อง หรือนมขวดประเทภนั้นๆ ที่แตกต่างกัน เช่น ถ้านมรสจืดที่ผสมนมดิบ 100% จะได้ขึ้นราคามากกว่า แต่ถ้าเป็นนมปรุงแต่งมีส่วนผสมอื่นก็จะขึ้นตามสัดส่วนการใช้นมดิบ ส่วนสินค้าที่ใช้นมผงจะไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นราคา รวมถึงสินค้านมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ซึ่งเป็นสินค้าทางเลือกไม่ต้องขออนุญาตปรับขึ้นราคา