อิลสลิก โผล่ชี้แจงประเด็นร้อน หลังมีการพาดพิง "ตูน บอดี้สแลม" บนเวที
"อิลสลิก" (ILLSLICK) นักร้องแร็ปชื่อดัง โผล่ชี้แจงทุกประเด็นร้อน เล่าถึงเหตุการณ์โดยละเอียดหลังมีการพาดพิง "ตูน บอดี้สแลม" บนเวที
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ "อิลสลิก" (ILLSLICK) นักร้องแร็ปชื่อดัง ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ผับแห่งหนึ่ง โดยมีช่วงหนึ่งของการแสดง อิลสลิก ก็ได้พูดถึง "นักร้องซุปตาร์นักวิ่ง" ซึ่งชาวเน็ตต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์มองว่าพาดพิงถึง "ตูน บอดี้สแลม"
ล่าสุดทางด้านเฟซบุ๊ก Illslick - Thikhumporn Whetthaisong ก็ได้ออกมาชี้แจงประเด็นร้อนดังกล่าว ระบุว่า
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางทีมได้รับทราบถึงประเด็นต่างๆ ที่สังคมสนใจ ตั้งข้อสงสัย หรือวิพากย์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง พร้อมรับฟังทุกๆความคิดเห็น และเห็นว่าจำเป็นต้องเล่าถึงเหตุการณ์และความรู้สึกโดยละเอียด
1. กรณียกเลิกการแสดงร้านที่นนทบุรี ทีมยืนยันว่าจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนั้นจริงๆเพราะเหตุผลมีมากมายเหลือเกิน ไม่ใช่การตัดสินใจด้วยอารมณ์ เราเคยปฏิเสธร้านนี้หลายครั้งเป็นเดือนเพราะคิดว่าไม่เหมาะกับการแสดงของศิลปิน แต่ในท้ายที่สุดพี่อิลใจอ่อนเพราะร้านแจ้งว่าเป็นคนฟังของพี่อิล พร้อมปรับทุกอย่างให้ได้ร่วมงานกัน พอมาถึงไม่เป็นตามที่เคยคุยกันทำให้เริ่มผิดหวัง อุปกรณ์ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด ขอเพียงใช้งานได้จริงและเพียงพอ แต่เมื่อไปถึงพบว่าอุปกรณ์ไม่พร้อม มีปัญหาการเซต และไม่เพียงพอ ซึ่งทีมก็ไม่ได้ตัดสินใจยกเลิกในทันที ทั้งพี่อิลและทีมเองร้องเช็คหลายชั่วโมงเพื่อพยายามแก้ทุกๆปัญหาที่เกิดขึ้น ถึงกับพูดว่า ไม่เป็นไร จะไม่ยอมเลิกเช็คจนกว่าระบบจะถูกเซ็ตได้จนสำเร็จ เพราะเห็นแฟนเพลงจำนวนมากนั่งรอตั้งแต่เช้าเที่ยงทั้งที่การแสดงเริ่ม 23:00 น. เราพบปัญหาไมค์หอนอย่างรุนแรงเพราะการเซ็ตลำโพง PA อยู่หลังลำโพงมอนิเตอร์ เราแจ้งให้ร้านทราบเพื่อขอให้มีการปรับย้ายให้ถูกต้อง แต่ผู้มีอำนาจไม่ยอม แจ้งว่าแบบนี้ก็ใช้ได้ เราพยายามอธิบายแล้วว่าเรารู้ดีมีวิธีแก้อะไรได้บ้าง เราทำได้ทุกอย่าง
แต่การปรับอย่างที่ผู้นั้นแจ้งส่งผลกระทบต่อเสียงร้องและซาวนด์มาก แนวดนตรีของเรามีการแสดงต่างจากแนวอื่น เป็นจุดสำคัญที่ทำให้แก้ตามที่ร้านแจ้งไม่ได้ นอกจากนี้หากใช้อีกวิธีสามารถทำได้แต่โทนของเสียงร้องเสียงดนตรีจะถูกเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง และไมค์จะยังหอนอยู่ดีเมื่อแสดงจริง เพราะลำโพง PA ของร้านมี 2 ตัว เทียบกับจำนวนคนดู เราต้องดันความดังขึ้นไปจากตอนซาวนด์เช็คอย่างมาก มันไม่สามารถควบคุมการหอนได้เมื่อแสดงจริง การแก้ปัญหาที่ผู้นั้นแนะนำคือการห้ามไม่ให้พี่อิลเดินไปทางนั้นและร้องฝั่งเดียว ซึ่งพี่อิลไม่ทำเพราะคนฟังฝั่งนั้นจะเข้าใจอย่างไรที่เราไม่สนใจเดินไปทั้งที่ทุกคนตั้งใจมาเจอ และหากเสียงที่ออกไปมีปัญหาขนาดนั้น การโชว์สปิริตฝืนเล่น คือการเอาเปรียบคนดู คนมารอฟังเราร้องแต่ซาวนด์มีปัญหา เราไม่ใช่ดาราที่แค่มาเจอหน้า เสียงไม่ได้ยินก็พอใจแล้วเช่นนั้น
2. พฤติกรรมของผู้มีอำนาจคือการไม่ยอมแก้ไขจุดที่เป็นต้นเหตุ แต่เลือกใช้วิธีพูดจาอ้างถึงคนอื่นๆ และปัดความรับผิดชอบแทน ใช้คำหยาบคาย ไม่มีคำขอโทษ ไม่โอนอ่อนยอมปรับตามให้ ทางทีมไม่ได้มีปัญหากับเจ้าของร้านหรือท่านอื่นๆเพราะทุกคนก็พยายามจะขอร้องให้ผู้นั้นยอมฟังยอมรับแล้วจริงๆแต่ผู้นั้นไม่ยอมจนนาทีสุดท้าย เจ้าของร้านและทีมเจ้าของร้านก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่แรกที่เกิดเรื่อง ดังนั้นเราเข้าใจดีที่ทั้งสองท่านจะเข้าใจไปอีกแบบและให้สัมภาษณ์ว่าการเปรียบเทียบนั้นเพียงเพราะอยากแก้ปัญหา และไม่มีเจตนาเหยียดหยาม ทั้งสองไม่ทราบว่าบุคคลนั้นที่ร้านเองก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รับฟังมุมของดนตรีแบบเรา ไม่ยอมปรับแก้ตามร้องขอ ใช้คำพูดดูถูกเปรียบเทียบตลอดเวลาไม่ใช่เพียงครั้งเดียวแต่เป็นสิบครั้ง พูดกับทุกๆคนซ้ำๆไม่เว้นแม้แต่กับคนขับรถของทีมว่าไอ้ตูนก็เล่นได้ บอดี้แสลมก็เล่นได้ บางครั้งก็พูดถึงไอ้เคนก็วิ่งไปวิ่งมาร้องบนเวทีด้วยซ้ำก็ไม่เห็นเป็นอะไร จนเรามองเห็นว่าเกินกว่าจะแก้ไขใดๆได้แล้วจริงๆ
3. การกล่าวอ้างถึงบุคคลที่สาม หรือบางข่าวใช้คำว่าท้าชน ประชัน เป็นความจริง แต่อาจมีหลายคนเข้าใจเจตนาผิดเพี้ยน เรายืนยันว่าไม่ใช่การแซะ การหาเรื่อง ไม่ใช่การกร่าง หรือการข่มใดๆ อาจเพราะการพูดด้วยสไตล์การ Rap ใช้ประโยคกระชับ รุนแรง มีคำหยาบและตรงไปตรงมา ทำให้ตีความได้เช่นนั้น พี่อิลยอมรับว่าใช้คำหยาบตอบกลับผู้มีอำนาจผู้นั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าโกรธต่อสิ่งที่ผู้นั้นทำอย่างมาก สิ่งสำคัญที่ต้องการสื่อคือผู้มีอำนาจคนนั้นไม่ควรตัดสินความเป็นมืออาชีพจากการเปรียบเทียบง่ายๆแบบนั้น เราไม่เหมือนกันทั้งการร้อง ทั้งด้านดนตรี ทั้งการแสดง และที่มาที่ไป ดนตรีฮิปฮอปไม่ควรถูกตัดสินง่ายๆว่าเป็นเพียงการร้องกับ Backing Track การไม่มีเครื่องดนตรีไม่ได้แปลว่าจะเล่นยังไงก็ได้ การเป็นศิลปินเดี่ยว ศิลปินใต้ดินที่ไม่มีค่ายสนับสนุน ไม่ได้แปลว่าจะไม่แยแสไม่สนใจคำขอ ปล่อยให้เล่นยังไงก็ได้ เพราะเราต้องลำบากดิ้นรนด้วยตัวเองต้องพยายามไม่แพ้กันเพื่อมาถึงจุดนี้ และเราจะไม่มีวันถอยหลังลดมาตรฐานที่ตัวเองสร้างมาทั้งชีวิตเพราะคนๆเดียวที่ไม่เข้าใจไม่เปิดใจไม่เห็นใจแนวดนตรีที่แตกต่าง “การขอให้ประชัน จุดประสงค์หลักเพื่อเป็นการกระตุ้นผู้นั้นให้เห็นว่าก่อนตัดสินอีกฝ่ายควรพิจารณาให้เห็นประจักษ์” ไม่ใช่แค่พูดง่ายๆ เป็นการร้องขอต่อ “ผู้มีอำนาจผู้นั้น” ที่เป็นฝ่ายอ้างเปรียบเทียบมาก่อน การประชันสำหรับพี่อิลไม่ใช่การเอาชนะ แต่เป็นการขอโอกาสให้ได้แสดงให้เห็นว่าตนเองก็ทำได้ อย่าเปรียบเทียบตัดสินกันเช่นนี้หากไม่ได้เปรียบเทียบชัดๆด้วยความสามารถ แต่เป็นเพียงการคาดเดาด้วยอคติของคนๆเดียว เพราะการประชันนี้เป็นเพียงการยกขึ้นมากระตุ้นผู้มีอำนาจผู้นั้นให้ฉุกคิดผ่านถ้อนคำการแร็ปบนเวที ไม่ได้อยากกล่าวอ้างถึงใครหากไม่ถูกโยงไปเทียบก่อน และหากจะเกิดขึ้นจริง เรายินดี เพราะมันจะไม่ใช่การแข่งขันการเอาชนะ แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้ดนตรีจะแตกต่างกันก็ไม่ได้ด้อยค่าไปกว่ากัน ดนตรีเป็นเรื่องของรสนิยม ไม่มีถูกผิด ไม่มีใครดีใครด้อยกว่าใคร ย่อมเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่ายสองแนวดนตรี และเรามั่นใจว่ามันจะช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อดนตรีฮิปฮอปที่คนมองว่าเป็นเพียงดนตรีง่ายๆ เล่นกับบีท ลอกต่างชาติ ใครๆก็ทำได้ให้มันหมดไป
3. ข้อความที่พูดว่า คนที่เล่นในสถานการณ์เช่นนั้นได้คือคนที่ทรยศต่อคนฟัง เพราะเห็นแก่ตัวเองและเงิน ไม่ได้หมายถึงคนอื่น แต่หมายถึงตัวเอง เราจะไม่มีวันทำแบบนั้น เพราะคนที่ทำแบบนั้นคือคนที่ทรยศคนฟังของตัวเอง เพราะพี่อิลเห็นแล้วว่าคนมารอเราขนาดไหน คนยอมเสียเงินหลายต่อ เสียเงินแล้ว 800 บาท แต่เมื่อร้านเพิ่มเงื่อนไขให้ต้องจ่ายเปิดโต๊ะเพิ่ม คนฟังก็ยังยอมเพื่อจะได้เข้ามาดู แล้วเราจะเอาเปรียบคนดูของตัวเองซ้ำด้วยการเล่นในมาตรฐานแบบนั้นได้อย่างไร ให้คนเสียเงิน เสียแรง มาดูการแสดงที่ห่วย ไม่ได้มาตรฐาน มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น แม้ใครจะมองว่าไม่มีสปิริต แต่สำหรับเรานี่คือสปิริตที่เรามอบให้ เพราะในวันนั้นทีมก็ได้รับความเสียหาย บางคนในทีมไม่เหลือเสียงร้องจากการซาวนด์เช็คที่นานเกินลิมิต จนต้องเข้าโรงพยาบาล ใช้ยาสเตียรอยด์เพื่อเล่นในงานต่อไป แม้แต่บนเวทียังต้องใช้ยารักษาโรคเพื่อลดอาการไอที่เกิดจากการระคายเคืองเพราะอาการคอบวม นอกจากนี้อุปกรณ์เล่นสดของทีมที่ต่อทิ้งไว้ที่ร้านระหว่างกลับมาประชุมเพื่อหาข้อสรุป หลังจากเรายกเลิกงานและกลับไปเก็บของอีกครั้ง พบว่าอุปกรณ์เสียหายเป็นจำนวนกว่า 3 แสนบาทไม่ทราบสาเหตุเพราะไม่ทันตรวจสอบขณะอยู่ที่ร้าน ซึ่งรวมกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด เราเองก็เสียหายเกินกว่าค่าจ้างที่ได้รับ ทีมเห็นใจร้านที่ต้องรับผิดชอบในส่วนของตัวเอง จึงเลือกรับผิดชอบส่วนของตัวเองเช่นกันโดยไม่มีการร้องขอ เพราะเห็นแล้วว่าเจ้าของร้านรับแทนผู้มีอำนาจผู้นั้นซึ่งเป็นคนผิดตัวจริงตลอดเวลา นอกจากนี้ด้วยปัญหาอุปกรณ์เสียหายก่อนหน้า เราแก้ไขได้เท่าที่ทำได้ในเวลาสั้นมาก ทำให้เมื่อแสดงในร้านต่อไปมีปัญหาซาวนด์ดับ จนต้องร้องสด และเสียเวลาแก้ปัญหาหลายนาที
เราเสียใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังว่าทุกคนจะได้เห็นในมุมที่ต่างออกไป ที่เหลือทางทีมยอมรับในทุกๆความคิดเห็น และสัญญาว่าในทุกๆงานต่อจากนี้ เราจะทำทุกวิถีทางให้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขอบคุณคนฟังที่รักและสนับสนุนเราเสมอมา
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews