สปีชทัชใจเเห่งปี “เบลล่า ราณี แคมเปน” งานคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 20
สปีชทัชใจเเห่งปี “เบลล่า ราณี แคมเปน” ชีวิตในวงการไม่ได้สวยหรู ต้องใช้เวลานานถึง 14 ปี กว่าจะเป็นเบลล่า ในทุกวันนี้
"ชุมชนยั่งยืน" วันนี้พามาติดตามอีกหนึ่งคำพูดที่เรียกว่าน่าจะเป็นกำลังใจให้กับหลายๆคนที่มีความฝันในหลากหลายเส้นทาง เเละกำลังหมดกำลังใจกับอุปสรรคต่างๆ ที่เจอ กับคำพูดของนางเอกสาว "เบลล่า ราณี แคมเปน" ที่โลกออนไลน์เเห่เเชร์เเละชื่นชม หลังจากที่ เบลล่า คว้ารางวัลเกียรติยศ สาขาละครนักแสดงทรงคุณค่าตลอดกาลไปครอง ภายในงานประกาศรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 20 ในค่ำคืนวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยภายหลังจาก เบลล่า ขึ้นรับถ้วยรางวัลเกียรติยศบนเวที เบลล่าได้พูดสปีช หรือการกล่าวสุนทรพจน์กับทุกๆ คนในงานไว้ว่า รางวัลนี้เป็นเกียรติในชีวิตของนักแสดงคนหนึ่งมากจริงๆ เบลขอเล่าถึงชีวิตของเบลนิดหนึ่งนะคะ...
ชีวิตในวงการของเบลไม่ได้มาแบบสวยหรู หรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ ถ้าเปรียบเป็นม้าแข่ง เบลไม่ใช่ตัวเต็ง เบลต้องลุ้นทุกสนามว่าเบลจะได้ลงแข่งหรือเปล่า สนามนี้เราจะได้แสดงฝีมือให้คนเห็นไหม มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เริ่มต้น เบลไม่ใช่เบลที่ทุกคนเห็นว่ามีชื่อเสียง หรือเป็นที่รัก อย่างที่ทุกคนเห็นกันอย่างทุกวันนี้
ตอนแรกที่เบลเข้าช่องมา เบลเป็นเด็กฝึก เบลต้องนั่งรถตู้จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อมาที่ช่อง 3 คือพระราม 4 เป็นเวลาหลายวันต่อสัปดาห์ เพื่อที่จะเรียนรู้และรอโอกาส จนได้ละครเรื่องแรก เบลไม่ได้เป็นนางเอก แต่เบลเป็นนางร้ายค่ะ ในเรื่องรอยมาร ตั้งแต่ปี 54
หลังจากน้้นก็ขยับมาเป็นนางรองละครเย็น เรื่องตะวันยอดรัก ทั้งสองเรื่องเป็นของอาปิ่น Tvscene นะคะ ขอบคุณที่ให้โอกาสแรกกับเบลค่ะ
จนเบลได้มาเป็นนางเอกละครหลังข่าวเรื่องแรก ก็คือ พรพรหมอลเวง ของพี่ตู่ ปิยวดี ต่อด้วยสุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายพุฒิภัทร เรื่องนี้ของพี่แหม่ม เบลก็แคสอยู่เป็นปีกว่าจะได้บทกรองแก้ว
จากนั้นก็มีผู้จัดหลายๆ คนให้โอกาสเบลเรื่อยมา ลูกทาส เพลิงฉิมพลี ภพรัก ปดิวรัดา วิมารเมขลา และ เพลิงบุญ ที่เป็นละครดรามาเข้มข้น ซึ่งในปีนั้นเรื่องนี้ได้เรตติ้งอันดับ 1 ของช่อง 3 เรื่องนี้เบลถ่ายพร้อมกับบุพเพสันนิวาสของพี่หน่อง ซึ่งได้มาออนปี 61 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเบลเลย ที่เบลได้มาเป็นออเจ้าของทุกคนในวันนี้
จากนั้นก็มี ปี่แก้วนางหงส์ กรงกรรม ร้อยเล่ห์มารยา พรหมลิขิต และกำลังจะเปิดกล้อง เจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง
หรือแม้แต่งานภาพยนตร์ เบลก็ไม่ได้เริ่มต้นที่บทนำเลย พอได้เป็นบทนำ เรื่องนั้นก็ไม่ได้ฉาย จนมาเป็นอีเรียมซิ่ง บุพเพสันนิวาส 2 ที่ทุกคนเห็นว่าประสบความสำเร็จ
ที่เบลเท้าความมาทั้งหมด อาชีพของเบล ไม่ได้แตกต่างจากทุกคนเลย มันไม่ได้มีแต่ความสวยงาม มันมีทั้งความผิดหวัง ความพยายาม การฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีคำดูถูก มีคำวิจารณ์ มีการอดทนรอ ซึ่งตั้งแต่ที่เบลได้เป็นเด็กฝึกช่อง 3 จนมาถึงวันที่บุพเพสันนิวาสออนแอร์ เบลใช้เวลา 8 ปี
จากตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเป็นอาชีพนักแสดง เบล ใช้เวลากว่าจะมีวันนี้เป็น เบลล่า ราณี คนนี้ เบลใช้เวลาทั้งหมด 14 ปีค่ะ เบลไม่ต่างจากทุกๆ คนเลย
คนเราไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ก้าวแรก แต่บางทีมันอาจจะสำเร็จบนความพยายามครั้งที่ 100 ด้วยซ้ำ บางครั้งความพยายามอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมีโชคด้วย แต่เบลเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจ ถ้าเรามุ่งมั่น และเราพร้อมอยู่เสมอจุดเปลี่ยนในชีวิตเราที่เข้ามา เราจะพร้อมคว้ามันทันที
อย่าให้คนอื่นมาบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าเอาคำดูถูก หรือการกลั่นแกล้งมาบั่นทอนจิตใจของเรา แต่ว่าคุณจงใช้พลังนั้นในการขับเคลื่อนตัวคุณ
ถ้าวันไหนที่เราได้ลงสนามจงวิ่งให้สุดกำลังเลยค่ะ ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร เราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ในสิ่งที่ไม่มีคนมองเห็น ความตั้งใจนั้นมันจะส่องแสงออกมา แล้วมันก็จะเป็นวันของคุณค่ะ
เบลขอขอบคุณผู้ใหญ่และผู้จัดทุกท่าน ขอบคุณที่ให้ม้าตัวนี้ได้ลงสนามแข่ง ได้โชว์ฝีมือความสามารถให้ทุกคนได้เห็นขอบคุณลูกค้า พรีเซ็นเตอร์ อีเวนต์ งานจ้าง ทุกงานๆ ที่สนับสนุนเบล ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณแดดดี้ ขอบคุณคุณแม่ที่รักของลูก ที่เป็นพลังใจ และมีคำสอนที่ทำให้เบลเป็นเบลทุกวันนี้นะคะ ขอบคุณพี่พลอยผู้จัดการ ที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่วันที่ยังไม่มีอะไร อดทนมาด้วยกัน และมั่นใจในกันและกันเสมอมาค่ะ
และสุดท้ายขอบคุณแฟนคลับ ประชาชนคนไทยทุกๆ คน รวมถึงทุกประเทศด้วยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เคยชมผลงานของเบล ที่สละเวลาดูมัน ขอบคุณที่รักกันค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันหล่อหลอมให้ เบล เป็น เบลล่า ราณี แคมเปน ในทุกวันนี้ ขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณภาพ : IG Ballacampen