สาวโวยหนัก พาครอบครัวไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่โดนจนท. ไล่ลงจากเครื่องบิน
สาวโวยหนัก พาครอบครัวไปเที่ยวเชียงใหม่ แต่โดนเจ้าหน้าที่ไล่ลงจากเครื่องบิน เหมือนเป็นอาชญากร ทำทริปครอบครัวล่ม
เกิดเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียล เมื่อมีหญิงสาวรายหนึ่งในประเทศมาเลเซีย ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Susan Yong ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์อันเลวร้านที่ เธอและครอบครัวถูกไล่ลงจากเครื่องบินเหมือนกับเป็นอาชญากร เพราะว่าทางสายการบินขายตั๋วเกิน
โดยเจ้าของเฟซบุ๊กดังเผยเปิดว่า เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เธอได้จองตั๋วล่วงหน้ากับทางกับสายการบินแห่งหนึ่งของมาเลเซีย เพื่อจะเดินจากกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเชียงใหม่ ประเทศไทย เป็นทริปไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว ประกอบไปด้วย เธอ แม่ของเธอ สามี และพ่อแม่ของสามี
ทีแรกทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งถึงวันเดินทางจริง วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เธอได้เดินทางไปที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ แต่ปรากฎว่าตอนที่เธอพยายามจะเช็กอินที่หน้าเคาน์เตอร์ของสายการบิน พนักงานแจ้งว่า เที่ยวบินดังกล่าวมีการจองตั๋วเกินกว่าจำนวนที่นั่ง และทางสายการบินได้จัดเตรียมเที่ยวบินอื่นให้
ทั้งนี้ ทางพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์แจ้งว่า ให้เธอและครอบครัวเดินทางด้วยเที่ยวบินที่ออกเดินทางในวันถัดไป และแน่นอนว่า เธอไม่ตกลง เพราะเธอได้จองบริการเช่ารถและโรงแรมเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ทางพนักงานจึงบอกว่า สามารถหาเที่ยวบินให้พวกเขาเดินทางในคืนนั้นได้ในเวลา 20.00 น. แต่ปลายทางในประเทศไทยคือ กรุงเทพฯ
หลังจากนั้น ในขณะที่เธอกำลังสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม อยู่ ๆ มีพนักงานมาแจ้งว่า ปัญหาที่นั่งในเที่ยวบินของเธอและครอบครัวได้รับการแก้ไขแล้ว ขอให้พวกเธอเช็กอินสัมภาระเพื่อขึ้นเครื่องบิน ซูซานและครอบครัวก็โล่งใจ ก่อนจะปฏิบัติตาม เมื่อโหลดกระเป๋าเสร็จจึงเดินไปตามทางออกเพื่อขึ้นเครื่อง
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายดังกล่าว ยังบอกอีกว่า เธอและครอบครัวได้รับตั๋วเครื่องบินที่เขียนด้วยลายมือ ส่วนที่นั่งยังไม่ทราบ เพราะพนักงานบอกว่าจะแจ้งบนเครื่องบิน เธอก็ทำตามนั้น แต่ปรากฏว่าเมื่อขึ้นไปบนเครื่อง ทางพนักงานบนเครื่องบินบอกว่า เธอและสามีไม่มีที่นั่งเพราะรายชื่ออยู่ในลิสต์ No Show หรือ ผู้โดยสารที่ไม่ไปแสดงตัวเวลาเช็กอิน
ทว่า มีแอร์โฮสเตสรายหนึ่งบอกเจ้าเฟซบุ๊กดังกล่าวและสามีให้รอสักครู่ เพื่อที่เธอจะไปจัดการหาที่นั่งให้ แต่ระหว่างนั้น อยู่ๆ ก็มีพนักงานชายรายหนึ่งขึ้นมาบอกให้พวกเธอลงไปจากเครื่องบิน ด้วยท่าทางขึงขังและน้ำเสียงดุดัน ทำให้เธอตกใจมาก ว่า "คุณไม่มีตั๋ว กรุณาลงจากเครื่องบินเดี๋ยวนี้ คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้"
ทางด้านสามีของเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ยังได้เข้าไปขอคำอธิบายถึงการปฏิบัติที่หยาบคาย แล้วชี้แจงว่าพวกเขาทำตามคำแนะนำของทางพนักงานมาตลอดทางจนขึ้นเครื่องบิน พร้อมทั้งแสดงตั๋วที่เขียนด้วยลายมือ แต่พนักงานชายรายนั้นกลับพูดใส่ว่า "คุณไม่รู้เหรอ ? ตั๋วแบบนี้เราไม่นับ เราได้อธิบายให้คุณทราบอย่างชัดเจนแล้ว โปรดออกไปเดี๋ยวนี้"
เจ้าเฟซบุ๊กดังกล่าวเผยอีกว่า ตอนนั้นเธอและสามีรู้สึกสับสนมาก ไม่อยากลงจากเครื่องบินไปเพราะเป็นห่วงพ่อแม่ของพวกเขาที่อายุมาก ซึ่งต่างได้ที่นั่งบนเครื่องบินกันแล้ว ไม่อยากให้พวกเขาเดินทางไปกันเอง เมื่อทั้งสองไม่ยินดีที่จะลงไป ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินเข้ามาคุมตัวให้ทั้งคู่ลงไป
"พนักงานอย่างน้อย 6-7 คน ที่มีทัศนคติแย่ ๆ มาโยนเราออกจากเครื่องบินเหมือนอาชญากร พวกเขาหยาบคายมากและฉันกลัวมาก โชคดีที่เราเรียกพ่อแม่ของเราออกมาทันเวลา หลังจากลงจากเครื่องบิน ฉันพูดไม่ออก มีแต่น้ำตาไหลออกมา" เจ้าเฟซบุ๊กระบุ
เธอเผยว่า สุดท้ายทางพนักงานได้จัดเที่ยวบินให้เธอและครอบครัวเดินทางไปยังเชียงใหม่ในวันรุ่งขึ้น และจัดหาที่พักให้พวกเขาในคืนนั้น และในวันเดียวกันเธอได้รับอีเมลจากสายการบินแจ้งว่า จะให้เครดิตในบัญชีสมาชิกของเธอและครอบครัวละคน 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,500 บาท) และเป็นเครดิตที่มีวันหมดอายุ
ทว่า เจ้าเฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น และหลังจากเกิดเหตุ เธอได้ไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก โดยชี้ว่า หากทางสายการบินแจ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้า เพื่อให้เธอและครอบครัวสามารถจัดการปรับเปลี่ยนการจองที่จำเป็นได้ ก็จะไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากโพสต์ของซูซานถูกเผยแพร่ออกมาก็ถูกแชร์ต่อกันออกไปกว้างขวางกว่า 12,000 ครั้ง พร้อมทั้งคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับบริการมากมาย ทั้งนี้ทางเว็บไซต์ Says ระบุว่า ได้ติดต่อไปยังทางสายการบินนั้น เพื่อตรวจสอบและชี้แจง แต่ยังไม่มีการตอบรับใดๆ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews