แม่บ้านไปซื้อปลา กลับมามีไข้ขึ้นสูง หามส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต

17 กันยายน 2567

แม่บ้านไปซื้อปลาที่ซูเปอร์มาร์เก็ต จู่ๆ กลับมามีไข้ขึ้นสูง หามส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต รอดมาได้ตัดสินใจฟ้อง 1 ล้าน

มีรายงานกรณีน่าสนใจว่า หญิงรายหนึ่งจากเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ที่เธอต้องเจ็บปวดทรมานและติดเชื้อจนอาการวิกฤต แทบเอาชีวิตไม่รอด หลังไปซื้อปลาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่มีพนักงานประจำอยู่ในจุดจำหน่ายอาหารทะเลสด ทำให้เธอต้องจับปลาเองจนถูกเงี่ยงปลาทิ่ม นำมาสู่การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายร่วม 220,000 หยวน หรือราวๆ 1 ล้านบาท จากซูเปอร์มาร์เกตที่เกิดเหตุ

 

แม่บ้านไปซื้อปลา กลับมามีไข้ขึ้นสูง หามส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต

โดยเธอไปซื้ออาหารทะเลสดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าว ที่ตอนนั้นไม่มีพนักงานคอยให้บริการ เธอจึงต้องจับปลาด้วยตัวเอง แต่กลับถูกเงี่ยงปลาทิ่มบริเวณมือขวา ขณะจับปลาใส่ลงถุง ตอนแรกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับบาดแผลนัก แต่แล้วคืนนั้นอยู่ๆ หญิงคนดังกล่าวก็มีไข้ขึ้นสูง จนทางครอบครัวต้องพาส่งโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น

 


กระทั่งเธอได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ Vibrio vulnificus ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโลหิตเป็นพิษได้ สามารถติดเชื้อได้ผ่านบาดแผลที่สัมผัสโดนเชื้อ ลูกชายของเธอเปิดเผยว่า แม่ของเขาอาการวิกฤตหนัก จำเป็นต้องได้รับการรักษาฉุกเฉินนานถึง 10 ชั่วโมง ถึงยื้อชีวิตไว้ได้ และยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 84 วัน

 


ระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล หญิงคนดังกล่าวต้องพบเจอกับความทรมานหลายอย่าง รวมถึงมีอาการช็อกเหตุพิษติดเชื้อ ซึ่งเป็นภาวะที่มักเกิดหลังการติดเชื้อในกระแสเลือด รวมค่าใช้จ่ายระหว่างการแอดมิต 84 วัน ตกเป็นเงิน 75,864.43 หยวน หรือ ราวๆ 355,000 บาท
 

แม่บ้านไปซื้อปลา กลับมามีไข้ขึ้นสูง หามส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต

 

แม้เธอจะไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว แต่มือของเธอยังคงบวมและมีแผลเปื่อย ทำให้จำเป็นต้องมารักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ลูกชายเผยว่าแม่ของเขาจำเป็นต้องตัดเนื้อเน่าทุกวันและรอให้เนื้อใหม่งอก ซึ่งมันน่ากลัวมากๆ กระทั่งลูกชายเองยังทนดูไม่ได้ด้วยซ้ำ


สุดท้ายแล้วทางหน่วยงานท้องถิ่นก็ได้พิจารณา ว่านิ้วที่ 1 ถึง 5 ที่มือขวาของเธอ มีการทำงานที่ผิดปกติ นับว่าเข้าข่ายความพิการ ทางครอบครัวพยายามเรียกร้องความรับผิดชอบจากทางซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ทางซูเปอร์มาร์เก็ตเสนอจ่ายให้แค่ 9,000 หยวน หรือราวๆ 42,000 บาท ในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียหายมองว่าความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นเหล่านั้น เกิดจากแผลที่ได้ตอนซื้อปลา 


เมื่อตกลงกันไม่ได้ทางครอบครัวจึงยื่นฟ้องเพื่อเรียกเงินชดเชยจำนวนกว่า 220,000 หยวน หรือราวๆ 1 ล้านบาท ซึ่งระหว่างการไต่สวนของศาล ทางซูเปอร์มาร์เก็ตพยายามโต้แย้งว่าลูกค้าเป็นฝ่ายละเลยไม่ระมัดระวังเอง ดังนั้นความรับผิดในส่วนของพวกเขาจึงควรจะปรับลดลง ซึ่งศาลมองว่าในฐานะที่เธอเป็นลูกค้าของซูเปอร์มาร์เก็ต เธอมีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล และมีสิทธิ์เรียกร้องขอรับบริการจากซูเปอร์มาร์เก็ตได้
 

แม่บ้านไปซื้อปลา กลับมามีไข้ขึ้นสูง หามส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต

อีกทั้งศาลยังชี้ว่า โซนอาหารทะเลสดนั้นมีการจำหน่ายปลา กุ้ง และสัตว์ทะเลหลายชนิด ลูกค้ามีความเสี่ยงที่จะลื่น ถูกปลาทิ่ม หรือติดเชื้อแบคทีเรียระหว่างจับปลา ทางซูเปอร์มาร์เก็ตควรมีบริการจับปลาให้ หรือมีอุปกรณ์ตกปลาที่เหมาะสม พร้อมทำฉลากและคำแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ รวมถึงติดคำเตือนในจุดที่เห็นได้ชัด เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าเกิดอันตราย ซึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ไม่มีทั้งคนจับปลา หรือจัดอุปกรณ์ที่เหมาะสมแก่ลูกค้า ไม่เตือนลูกค้าถึงความเสี่ยง จนเป็นผลให้ลูกค้าได้รับบาดเจ็บและเกิดความเสียหาย ศาลจึงตัดสินให้ซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นฝ่ายผิดและต้องจ่ายเงินชดเชย

 

 

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเองก็น่าจะคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่จะได้รับบาดเจ็บ หากไม่มีคนคอยจับปลาให้และไม่มีอุปกรณ์ ก็ควรไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต ควรมีความระมัดระวังเพื่อป้องกันตัวเองจากการบาดเจ็บเช่นกัน ดังนั้นศาลจึงยอมรับคำโต้แย้งของทางซูเปอร์มาร์เก็ต และลดความรับผิดของซูเปอร์มาร์เกต เหลือเพียง 70% โดยทางซูเปอร์มาร์เก็ตจะต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้เสียหายจำนวน 139,000 หยวน หรือราว 650,000 บาท ขณะที่ความรับผิดที่เหลืออีก 30% เป็นของฝ่ายลูกค้าเอง

แม่บ้านไปซื้อปลา กลับมามีไข้ขึ้นสูง หามส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต

ข้อมูลจาก Sinchew และ Jimu News