กกต.ไฟเขียว 49 พรรค หาเสียงเลือกตั้ง66 พร้อมแจงปมตรวจสอบแคนดิเดตนายก
กกต. แจงไม่มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายก ไฟเขียว 49 พรรค หาเสียงเลือกตั้ง66 ตามเบอร์ที่จับได้ หลังตรวจสอบเอกสารครบถ้วน
วันที่ 4 เม.ย.66 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยถึงการรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันแรก ว่า หลังกกต.ได้ตรวจสอบเอกสารทั้ง 49 พรรคการเมืองที่มายื่นสมัคร และจับสลากหมายเลขพรรคในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทุกพรรคมี เอกสารครบถ้วน สามารถออกใบรับสมัครได้ครบทั้งหมด และได้หมายเลขตามลำดับที่จับสลากได้
รายชื่อของผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด กกต. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเช่นเดียวกับส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หากพบว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติก็จะไม่ประกาศรายชื่อ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ หากศาลไม่คืนสิทธิให้ พรรคการเมืองก็จะเหลือจำนวนผู้สมัครเท่าที่มีอยู่
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กฎหมายกำหนดให้ กกต.เป็นเพียงผู้รับแจ้งชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าบางพรรคเอกสารการสมัครไม่ครบทำให้การสมัครล่าช้า นายแสวง ชี้แจงว่า เกิดจากการใช้สำเนาที่พิมพ์มาจากคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เอกสารตัวจริง แต่กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้ทำให้สาระสำคัญของการรับสมัครเสียไป หรือเอกสารไม่สมบูรณ์ จึงได้ดำเนินการรับสมัคร
สำหรับกรณีที่บัตรเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตไม่มีโลโก้ และชื่อพรรคการเมือง ทางกกต.ไทำความเข้าใจกับหลายพรรคการเมืองแล้ว ว่ารูปแบบของบัตรที่กกต.จะจัดพิมพ์ เป็นผลดีสำหรับพรรคการเมือง เพราะจากการถอดบทเรียนการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 มีบัตรเสียเยอะมาก และครั้งนี้กฎหมายได้กำหนดให้บัตรเลือกตั้ง 2 ประเภท ต้องมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยแบบแบ่งเขตกำหนดให้มีช่องกาเครื่องหมายและหมายเลขเท่านั้น ส่วนแบบบัญชีรายชื่อกำหนดให้มีช่องกาเครื่องหมาย โลโก้ และชื่อพรรค ดังนั้นบัตรทั้ง 2 ใบจะทำเหมือนกันไม่ได้ และสีก็ต้องมีความแตกต่างกันด้วย
อย่างไรก็ตาม กกต.จะพยายามอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยจะให้ทุกหมายเลขของผู้สมัครทั้ง 2 ประเภท อยู่ในบัตรเลือกตั้งหน้าเดียว และในวันเลือกตั้ง จะมีการติดประกาศข้อมูลของผู้สมัครหน้าหน่วยและติดป้ายไวนิลข้อมูลผู้สมัครไว้ในจุดที่ประชาชนผู้ไปใช้สิทธิในคูหาสามารถมองเห็นได้ เพื่อจะได้จดจำเบอร์ไปกาบัตรอย่างถูกต้อง