"สนธิญา" ร้องอัยการสูงสุด โหวตประธานสภา ควรเป็นโมฆะ พร้อมฝากข้อความถึง พิธา
สนธิญา สวัสดี ยื่นร้องต่ออัยการสูงสุด ชี้การโหวตประธานสภา และรองประธานสภาฯ ไม่ถูกต้อง ควรเป็นโมฆะ ฝากถึงพรรคก้าวไกลและพิธา เดินสายขอบคุณหรือเป็นการชุมนุมกดดัน
นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องสอบข้อเท็จจริง กรณีการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานทั้ง 2 ท่าน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้กระบวนการเลือกดังกล่าวเป็นโมฆะ ยุติการปฏิบัติหน้าที่
นายสนธิสัญญา เปิดเผยว่า การโหวตเลือกประธานสภา และรองสภาฯทั้ง 2 คน ดังกล่าว เป็นการเลือกประธานสภา และรองสภาฯ เนื่องจากตนมองว่า ผิดกฎรัฐธรรมนูญมาตรา 116 ผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต แต่ในวันดังกล่าว นาย วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานสภาผู้โดยราษฎรชั่วคราว อ้างข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพราะเห็นว่า มีผู้เสนอชื่อ อาจารย์ วันมูหะมัดนอร์ มะทา แต่เพียงชื่อเดียว จึงยกให้เป็นประธานสภาฯอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ว่า การรับเป็นประธานสภาฯ จะต้องมีมติจากที่ประชุมโดยชัดเจน ซึ่งต้องได้รับการลงมติจาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการเสียบบัตร สส. แต่วันนั้นกลับไม่มีเลย
นอกจากนี้ ยังได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบ กรณีที่เรื่องที่ นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มีการพูดหลังแถลงข่าวร่วมกับพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่าจะมีการเสนอชื่อ อาจารย์ วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นการทำผิดมาตรา 114 หรือไม่ เพราะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แต่การที่พิธาพูดไว้ก่อนเลือกประธานสภาฯ ถือเป็นการบังคับ สส.หรือไม่ รวมไปถึงการที่พิธา พูดว่า 8 พรรคร่วม จะโหวตตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถือว่าเป็นการบังคับ สส.หรือไม่
สุดท้ายนี้ ยังได้ฝากไปบอกพรรคก้าวไกล ว่า การที่ไปเดินสายขอบคุณตามสถานที่ต่างๆ เป็นการขอบคุณคะแนนเสียง หรือเป็นการชุมนุมเพื่อกดดัน และถ้าหากอัยการสูงสุด ไม่ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็จะนำเรื่องนี้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง